คนหัวร้อนฟังไว้ ด่าคนอื่นผ่านเฟซบุ๊กอาจต้องเสียค่าด่า 300,000 บาท
by Smart SME, 25 ตุลาคม 2561
คนสมัยนี้เห็นคนอื่นที่ไม่ชอบก็จะไปโพสต์แสดงความไม่พอใจผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ด่าเสียๆ หายๆ ซึ่งบางทีก็เกินไปที่แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นออกมา ล่าสุดเกิดกรณีศึกษาขึ้น เพราะการด่าคนอื่นผ่านเฟซบุ๊ก อาจต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินถึง 300,000 บาทเลยทีเดียว
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย เฟซบุ๊กแฟนเพจ ทนายนิด้า ที่โพสต์ว่า #ด่าคนอื่นผ่านเฟสบุ๊ค อาจจะต้องเสียค่าด่าจำนวนถึง 300,000 บาท
เพิ่งบินไปยื่นฟ้องคดีที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาไม่นาน กรณีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา #สวนคุณปู่ทุเรียนออร์แกนิค ให้ได้รับความเสียหาย คู่กรณีขอเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้ยุติคดี
นิด้าเตือนเสมอว่า ไม่พอใจอะไรอย่าด่า อย่าโพสต์สุ่มสี่สุ่มห้า ให้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายเอา เกิดคนถูกด่าเขาไม่ยอม ไปฟ้องศาลเข้าให้ ศาลพิพากษาลงโทษขึ้นมาจะเสียประวัติเอา
ปล.มีคนถามตลอดว่าโดนหมิ่นประมาทเรียกเงินได้เท่าไหร่ ค่าหมิ่นประมาทไม่ใช่ราคาก๋วยเตี๋ยว ราคาไม่เท่ากันทุกชาม แล้วแต่คน แล้วแต่กรณี แล้วแต่ความเสียหายที่ได้รับ พิจารณากันเป็นรายบุคคลค่ะ
เรื่องนี้คงจะเป็นข้อเป็นเตือนใจพวกคนหัวร้อนเวลาจะโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กได้เป็นอย่างดี เพราะหากบุคคลที่อ้างถึงเขาไม่เล่นด้วย ผลที่ตามมาก็คือตัวคุณเองที่จะงานเข้าโดยไม่รู้ตัว
Mostview
เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน
ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%
สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ
จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา
ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
หาคำตอบ? เพราะอะไรลูกค้าถึงรำคาญการตั้งราคาของแบรนด์อาหารจานด่วน
เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดขึ้นราคาเมนูอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอ้างปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนวัตถุดิบ, การขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน