ตามรายงานของ CS Global Wealth Report 2018 ล่าสุดที่ออกมาในเดือนตุลาคม พบว่าไทยได้กลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของโลก แซงหน้าทั้งรัสเซีย อินเดียไปเป็นที่เรียบร้อย

นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก โดยอ้างอิงข้อมูลจาก CS Global Wealth Report 2018 ว่าไทยได้กลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก โดยคนไทย 1% ถือครองทรัพย์สินรวมถึง 66.9% ของทรัพย์สินรวมทั้งหมดของประเทศ นั่นหมายความว่าคนไทยถึง 95% ถือครองทรัพย์สินแค่ 33.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งหมดของประเทศ

ตัวเลขดังกล่าวทำให้ไทยกระโดดขึ้นแท่นมาเป็นอันดับ 1 ของประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำ แซงหน้าทั้งรัสเซีย กับอินเดียไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเมื่อสองปีที่แล้ว (2016) คนไทย (adult) 1%แรก (500,000 คน) มีทรัพย์สินรวม 58.0% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ

รายงานนี้ยืนยันว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เราอาจจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน ทางการเมืองได้ดี แต่ถ้าไม่แก้เรื่องนี้ให้ได้ก็สุ่มเสี่ยงมากว่า เสถียรภาพทางสังคมจะมีปัญหา ที่ยากที่จะกระจาย ก็เพราะว่ามันกระจุกแบบสุดๆนี่แหละครับ ใครคิดว่า”รัฐสวัสดิการ”จะช่วยได้ ก็ต้องระวังแหล่งที่มาของเงินที่จะเอามากระจายด้วยนะครับ เพราะคนส่วนใหญ่ (80%) เขาก็หาได้แทบไม่พออยู่แล้ว ครั้นจะเอาจากพวก1% ก็ต้องฝ่ากระบวนการล็อบบี้อันทรงอิทธิพลของเหล่าเจ้าสัวให้ได้ และต้องระวังเขาหอบทรัพย์หนีออกนอกประเทศกันหมดด้วย บางคนบอกว่าเอาจากงบทหารแล้วกัน ทำอย่างนั้นก็เหมือนอยู่บ้านไม้เก่าๆ โทรมๆ แล้วยังไม่ยอมจ่ายเงินซื้อประกันไฟอีก

• รายงานฉบับเต็ม CS Global Wealth Report 2018