งานด้านพีอาร์ในปัจจุบันนั้นดูเหมือนจะทำได้สะดวกกว่าสมัยก่อน เพราะปัจจุบันนี้มีเครื่องมือให้เลือกใช้มากมายเต็มไปหมด แต่ในความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้นนี้ กลับต้องเจอกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา อย่างเรื่องของความรวดเร็วของการเผยแพร่ข้อมูล ความรวดเร็วของการรับรู้ข้อบมูล และการตอบโต้ที่เร็วขึ้นของข้อมูล ทำให้พีอาร์ในยุคดิจิทัลจะต้องทำงานแข่งกับความเร็ว ต้องเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับข้อมูลข่าวสารที่จะเข้ามาจากทุกช่องทาง ต้องเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการเป็นตัวช่วยสำหรับบริหารจัดการข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ออกไป นี่คือเรื่องหลักๆ ของการเป็นพีอาร์ในยุค 4.0

ยุคสมัยของการส่ง Press Release ไปยังสำนักข่าวต่างๆ ได้หมดลงแล้ว ในยุคสมัยนี้การติดต่อกับนักข่าวจะต้องทำการลงลึกถึงระดับบุคคลกันเลยทีเดียว เพราะช่องทางติดต่อนักข่าวหรือสำนักข่าวนั้น มีมากมายหลายช่องทาง ความนิยมใช้งานก็แตกต่างกันไปตามรสนิยม พีอาร์ยุคนี้ต้องเรียนรู้การใช้งานเครื่องมือต่างๆ เพื่อที่จะได้เข้าถึงนักข่าวได้เร็วที่สุด นอกจากนั้นนี่ยังเป็นยุคสมัยที่พีอาร์ต้องทำการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ กับลูกค้าโดยตรงอีกด้วย การวางแผนสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบนสื่อรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย ก็กลายเป็นอีกงานที่เพิ่มขึ้นของพีอาร์ในยุคดิจิทัลนี้

รับมือกับดราม่าผ่านโลกดิจิทัลอย่างไร

พีอาร์ยุคใหม่ต้องแยกให้ออกว่างาน PR ยุคใหม่ต่างจากยุคเก่าอย่างไร เดิมทีพีอาร์ต้องหวังพึ่งพาสำนักข่าวและนักข่าวเท่านั้น ทำให้หน้าที่ในการสร้างอีเว้นท์เพื่อให้นักข่าวมางาน และก็ส่งข่าว และคาดหวังว่าจะมีประเด็นที่นักข่าวสนใจแล้วนำไปเสนอ แต่พีอาร์ยุคใหม่งานเดิมก็ยังคงต้องทำอยู่ในยุคของการเปลี่ยนผ่าน แต่งานใหม่ที่ท้าทายกว่าก็คือการรับมือกับดราม่าจากใครก็ตามที่ต้องการสื่อสารกับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายๆ หรือเรื่องดีๆ พีอาร์ยุคใหม่ต้องหาวิธีรับมือจากช่องทางการสื่อสารมากมายที่มีอยู่ตอนนี้

นั่นหมายถึงพีอาร์ยุค 4.0 ต้องพัฒนาทักษะในการเขียนข่าวให้เหมาะสมกับช่องทางต่างๆ เพราะไม่สามารถใช้ content อันเดียวกันไปเผยแพร่ในสื่อทุกรูปแบบได้ การสื่อสารผ่าน Facebook, Twitter และ Youtube ล้วนต้องการรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไป และด้วยช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายนี่เองทำให้ พีอาร์ยุคใหม่ต้องคอยรับมือกับการ แก้ข่าวให้ตรงจุด เพราะยากที่จะคาดเดาได้ว่าเรื่องร้ายๆ ที่สร้างความเสียหายให้กับแบรนด์และองค์กรจะเกิดขึ้นเมื่อใด ผ่านทางช่องทางใด ดังนั้นการเรียนรู้ธรรมชาติของช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างวิธีการสื่อสารที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ

เลือกใช้เครื่องมือที่ถูกต้องได้อย่างไร

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่านี่คือยุคสมัยที่มีจำนวนเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดให้เลือกใช้จำนวนมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา การแย่งชิงพื้นที่บนหน้าจอการค้นหาของ Google การใช้ Facebook เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย การสร้างเนื้อหาบน Youtube ให้โดนใจ วิธีการ Live Facebook อย่างมืออาชีพ และแน่นอนว่ารูปภาพที่จะใช้ในสื่อต่างจะต้องมีความสวยงาม และมีขนาดที่เหมาะสมกับการนำเสนอผ่านเครื่องมือเหล่านั้น

ซึ่งวิธีการใช้เครื่องมือทางการตลาดเหล่านี้ หากได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในเครื่องมือแต่ละตัวอย่างใกล้ชิดแล้วละก็ ย่อมจะทำให้เข้าใจธรรมชาติของเครื่องมือต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเข้าร่วม workshop จะเปรียบเสมือนการย่นระยะเวลาในการเรียนรู้ จะทำให้เข้าใจได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

แล้วเครื่องมือทางการตลาดในยุค 4.0 ตัวไหนที่จะสามารถตอบโจทย์การทำพีอาร์ในยุคดิจิทัลมากที่สุด คำตอบของเรื่องนี้มีอยู่ในหลักสูตร DPR 4.0 (Digital Public Relation 4.0) หลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียวที่รวบรวมเอาบรรดาผู้เชี่ยวชาญในการรับมือและการตอบโต้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และผู้เชี่ยวชาญในเครื่องมือสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ ในโลกของการประชาสัมพันธ์ยุคนี้ นี่คือหลักสูตรเดียวที่จะทำการเตรียมความพร้อมให้กับนักประชาสัมพันธ์ในยุคดิจิทัล