หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทย และชาวต่างชาติ หนึ่งในตัวเลือกย่อมมี “ภูเก็ต” เป็นอันดับต้นของจังหวัดเป้าหมายที่จะไปชมความสวยงามของท้องทะเล โดยเฉพาะช่วง High season ที่พื้นที่ต้องเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กลับไม่เป็นไปตามเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อสถานที่ต่างๆ ในภูเก็ตเต็มไปด้วยบรรยากาศสุดเงียบเหงา ไร้เงานักท่องเที่ยว

เฟซบุ๊ก Jimmy Elizabeth Sea Trip โพสต์ข้อความว่า การท่องเที่ยวภูเก็ตปีนี้หนักมาก...ธุรกิจต่ำสุดในรอบ 10 ปีโรงแรมที่ป่าตองประกาศขายหลายแห่ง...ร้านอาหารร้านนวดปล่อยเซ็ง..ลูกค้าไม่มี...ให้เห็นเหตุการณ์โซนป่าตองเวลา...15.00 Pm วันนี้ 10 ธ.ค. 61 แล้ว..หน้าไฮจริงหรือ???

หลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป ได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกไปทั้งในมุมของนักท่องเที่ยวกับเหตุการณ์ที่ต้องพบเจอมา รวมถึงในมุมมองของผู้ประกอบการ ซึ่งในเวลาต่อมาเฟซบุ๊ก Jimmy Elizabeth Sea Trip ได้โพสต์ต่อว่า

ขอขอบคุณทุกคอมเม้นเลยครับ...จริงๆแล้วมีหลายอย่างที่คนทั่วๆไปไม่รู้...เกี่ยวกับภูเก็ต..แต่จะยกตัวอย่างให้ฟัง..ภูเก็ตเคยเป็นแค่จังหวัดที่ทำแร่ดีบุกมาก่อนและเป็นอาชีพหลักของคนภูเก็ต..แต่ช่วงหลังๆก็เริ่มมีการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากกลุ่มชาวจีน...จนกระทั้งวันหนึ่งได้ทำธุรกิจการท่องเที่ยวจนเต็มรูปแบบและประสบผลสำเร็จอย่างสูงสุด...การที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลอยากจะมา..จนทำให้นักลุงทุนสนใจและเปลี่ยนภูเก็ตอย่างรวดเร็ว...จนทำให้หลายๆคนปรับตัวไม่ทัน...ค่าที่ค่าครองชีพสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวกับรายได้...จนทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่ท่องเที่ยวที่มีค่าใช้จ่ายมากที่สุดในประเทศ...ที่ผมอยากจะพูดหรือให้ทุกคนทราบคือการที่ภูเก็ตมันแพงมันสาเหตุหลายๆประการ..ไม่ว่าจะเช่าที่ขายของ..หรือเช่าบ้านอยู่...นักลุงทุน..ค่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์มี่โตขึ้นทุกๆ 5% ต่อปี..ค่าส่วย..ค่าคุมครอง...ค่าเซ็ง...ผู้มีอำนาจ..จนมาถึงการแข่งขันในด้านธุรกิจ...คนนอกพื้นที่เข้ามากินในภูเก็ต...คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า...เพราะทุกคนเห็นว่ามาอยู่ภูเก็ตแล้วรายได้ดี...แต่จริงๆแล้วคนที่รวยคือเจ้าของที่...คนนอกพื้นที่..และผู้ที่มีอำนาจในภูเก็ตต่างหาก...