จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พบว่าปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนมีพฤติกรรมนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ทำให้เมื่อถึงเวลาที่จะต้องอาหารรับประทานเองที่บ้านจึงต้องหาเครื่องปรุงสำเร็จรูป ที่เมื่อปรุงอาหารออกมาแล้วมีรสชาติไม่ต่างจากการรับประทานอาหารนอกบ้าน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของผู้ผลิตเครื่องปรุงอาหารไทยที่จะตีตลาดประเทศจีน

โดยที่ผ่านมาชาวจีนก็มีความนิยม ชื่นชอบเครื่องปรุงรสไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลังได้ลิ้มรสอาหารไทยหลายรสชาติจากการเดินทางมาท่องเที่ยว เหล่านี้จึงทำให้เครื่องปรุงอาหาร และเครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูปไทย สามารถจะรุกตลาด ครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้ โดยเมนูอาหารที่ชาวจีนนิยมนำกลับมาทำที่บ้าน ได้แก่ แกงกะหรี่ไก่, ปลาเปรี้ยวหวาน, ปลานึ่ง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อทดลองทำเองกลับพบว่าได้รสชาติที่ไม่ตรงกับร้านอาหารที่ออกไปรับประทาน ซึ่งวิธีการแก้ปัญหา คือการเลือกซื้อเครื่องปรุงสำเร็จรูปมาปรุงอาหารแทน เพื่อให้รสชาติอาหารที่มีความใกล้เคียงกับร้านอาหารมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการ SME อยากจะเจาะตลาดเครื่องปรุงสำเร็จรูปในประเทศจีนอย่างมีศักยภาพ จำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างละเอียด เพราะแต่ละช่วงวัยล้วนความชอบที่แตกต่างกันออกไป สอดคล้องกับผลสำรวจของผู้บริโภคชาวจีนของ Hong Kong Trade Development Council ที่ระบุว่า ในเดือนตุลาคม 2560 - มีนาคม 2561 ชาวจีนนิยมเลือกซื้อเครื่องปรุงอาหารรสชาติของต่างประเทศ โดยเครื่องปรุงยอดฮิตอันดับ 1 คือ ผงชูรส รองลงมา คือ ซีอิ๊ว เครื่องปรุงอาหารแบบซอง เครื่องปรุงอาหารแบบออร์แกนิค

นอกจากนี้ เมื่อมองตามช่วงอายุ พบว่าผู้บริโภคอายุระหว่าง 20-30 ปี นิยมซื้อเครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูปแบบซองพร้อมปรุง และเครื่องปรุงอาหารต่างประเทศมากที่สุด, ผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 31-40 ปี นิยมซื้อเครื่องปรุงอาหารที่มีราคาสูง และผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 41-50 ปี นิยมซื้อเครื่องปรุงอาหารแบบออร์แกนิคมากที่สุด
ทั้งนี้ ปัจจัยดึงดูดที่จะทำให้ผู้บริโภคชาวจีนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องปรุงรสมากที่สุด คือรสชาติ ยี่ห้อ และส่วนประกอบ

ที่มา: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ