คุณเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึงมีสิทธิพิเศษราวกับมีทัวร์นาเมนท์ที่จัด 4 ปีครั้ง และทำให้ปฏิทินต้องขยายเวลาจาก 365 วันเป็น 366 วันในเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าสงสัยเรื่องนี้เช่นกันลองมานั่งไทม์แมชชีนย้อนดูที่มากันเลย
จากอดีตต้องย้อนกลับไปยังสมัยแรกที่ชาวโรมันใช้ปฏิทินโรมัน ซึ่งในปฏิทินนั้น 1 ปีเท่ากับ 304 วัน ประกอบด้วย Martius, Aprilis, Maius, Junius, Quintilis, Sextilis, September, October, November และ December เทียบเท่ากับ มีนาคม-ธันวาคม ของปัจจุบัน โดยที่บางปีจะมีการทดเดือนพิเศษเข้ามาเพื่อให้มีวันใกล้เคียงตามสุริยคติ
อย่างไรก็ตาม ในยุคอาณาจักรโรมันรุ่งเรืองนั้น ไกอัส จูเลียส ซีซาร์ ได้เป็นคนปรับเปลี่ยนปฏิทินใหม่ เนื่องจากการยึดปฏิทินเก่านับเดือนตามข้างขึ้นข้างแรมแล้วมีความไม่เหมาะสม จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 2 เดือนคือ January และ February และถูกนำมาใช้ในชื่อว่า ปฏิทินจูเลียน (Julian calendar) ที่สามารถคำนวณได้ว่าใน 1 ปีโลกใช้เวลาหมุนรอบดวงอาทิตย์ 365.25 วัน จึงทำให้ใน 4 ปีจะมีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เกิดขึ้นมาในปีอธิกสุรทิน (ปีที่ปฏิทินมี 366 วัน)
ในช่วงแรก เดือนกุมภาพันธ์ยังมีวันที่ 29 และวันที่ 30 โดยที่เดือนสิงหาคมมีเพียง 30 วันในอดีต ขณะที่เดือนกรกฎาคมเดิมหรือ Quintilis ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น July สอดรับกับชื่อของจูเลียส ซีซาร์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับเดือนเกิดของตัวเขา
กระทั่งถึงยุค ออกัสตัส ซีซาร์ ลูกบุญธรรมของ จูเลียส ซีซาร์ ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ปฏิทินจูเลียนก็มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากพระเจ้าออกัสตัส อยากมีเดือนเพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเองเฉกเช่นบิดา จึงได้เปลี่ยนชื่อเดือน Sextilis ซึ่งเป็นเดือนเกิดของตนเป็นชื่อ August รวมถึงยังเห็นว่าเดือนนี้มีเพียง 30 วัน ซึ่งในสมัยนั้นการมีจำนวนวันเป็นเลขคู่นั้นถือเป็นเดือนโชคร้าย จึงไปดึงวันจากเดือนเกิดใหม่อย่างกุมภาพันธ์มาใส่ ทำให้เดือนสิงหาคมจึงมี 31 วัน และเดือนกุมภาพันธ์เหลืออยู่ 28 วัน และก็กลายเป็น 29 วันในปีอธิกสุรทินดังเช่นปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ปฏิทินจูเลียน ก็ยังไม่ใช่ปฏิทินที่ใช้มาถึงปัจจุบัน นั่นเพราะปฏิทินดังกล่าวยังพบจุดบกพร่อง เนื่องจากในปีคริสตศักราชที่ 1582 มีการค้นพบว่า โลกไม่ได้ใช้เวลา 1 ปีหมุนรอบดวงอาทิตย์ 365.25 วัน หรือเท่ากับ 365 วัน 6 ชั่วโมง แต่ถูกค้นพบว่าการโคจรดังกล่าวอยู่ที่ 365.2425 วันต่อ 1 ปี หรือเท่ากับ 365 วัน 5 ชั่วโมง 48 นาที 45 วินาที ซึ่งใกล้เคียงกับของเดิม เท่ากับว่า หากใช้ปฏิทินจูเลียนไปครบ 134 ปี จะทำให้มีวันงอกเกินออกมา 1 วัน
จากการคำนวณครั้งนั้น จึงได้เกิดการเสนอการปฏิรูปปฏิทินขึ้นใหม่เรียกว่า “ปฏิทินเกรโกเรียน” (Modern “Gregorian” Calendar) โดยได้พระสันตปาปาเกรโกรีที่ 13 เป็นผู้ประกาศใช้และเริ่มต้นในปีเดียวกัน (ค.ศ.1582) โดยที่ปฏิทินเกรโกเรียน ได้ปรับปรุงปฏิทินให้มีผลย้อนหลัง ตามจำนวนวันที่หายไป 10 เมื่อปี ค.ศ.1900 และจะถูกใช้เป็นปฏิทินคริสตศักราชสากลจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในปีที่มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์นั้นจะถูกนำมาสังเกตง่ายๆ ด้วยการนำเลขปีคริสตศักราชมาหารด้วย 4 จะได้ผลเป็นจำนวนเต็ม เช่นในปี ค.ศ.2016 นี้พอหาร 4 จะเท่ากับ 504
ส่วนถ้าใครไม่อยากคำนวณ ยังมีทริกเล็กๆ อีกอย่างที่อาจจะทำให้จำง่ายขึ้นคือการจำปีนักษัตรที่ 1 5 และ 9 ซึ่งก็คือปีหนู (ชวด) ปีมังกร (มะโรง) และปีลิง (วอก) ซึ่งในปีเหลานี้ก็จะพบว่ามีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เช่นกัน