ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้ากว่า 170 ราย ไม่ว่าจะเป็น Nike, Under Armour, Adidas, Foot Locker, Ugg และ Off Broadway Shoe Warehouse ได้เขียนจดหมายถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้พิจารณาหยุดการเพิ่มภาษีรองเท้าที่นำเข้าจากจีน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวมีการเปิดเผยรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 25% หากทรัมป์ตัดสินใจที่จะเดินหน้าทำสงครามการค้าต่อไป โดยในลิตส์รายชื่อสินค้ามีรองเท้ารวมอยู่ด้วย ทั้ง สนีกเกอร์,รองเท้าแตะ, รองเท้ากอล์ฟ, รองเท้าสกี

โดยผู้จัดจำหน่ายและค้าปลีกรองเท้าของสหรัฐฯ (The Footwear Distributors and Retailers of America) องค์กรที่มีความเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ ประเมินหากมีการเก็บภาษีนำเข้ารองเท้าจริง ผู้บริโภคจะต้องจ่ายเงินเพิ่มมากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี

สำหรับจดหมายที่ส่งถึงทรัมป์นั้น ผู้ค้าปลีกหลายสิบรายขอให้นำรองเท้าออกจากลิตส์รายชื่อสินค้าที่จะมีการเก็บภาษีเพิ่มเติม

“อัตราการเก็บภาษีสินค้าผู้บริโภคของสหรัฐฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.9% แต่รองเท้ามีอัตราการเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ 11.3% และมีการนำเข้าสินค้าสูงถึง 67.5% โดยการเพิ่มภาษีนำเข้าเป็น 25% จะทำให้ครอบครัวชาวอเมริกันต้องควักเงินเพิ่มเกือบ 100% หากไปซื้อรองเท้า” ข้อความในจดหมาย

ตามรายงานจาก U.S. Census Bureau พบว่า สหรัฐ นำเข้ารองเท้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 11.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถทำกำไรให้กับอุตสาหกรรม เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีแรงงานที่มีความสามารถทางด้านทักษะ และมีค่าแรงไม่แพง

ทั้งนี้มีรายงานว่า Nike, Adidas, Under Armour รวมถึงผู้ผลิตสนีกเกอร์อื่นๆ ที่ฐานผลิตสินค้าในจีน เริ่มหาทางออกด้วยการย้ายไปที่เวียดนามแทน

ที่มา: cnbc