ส่วนมากเวลาเราพูดถึงน้ำหอมที่ใช้กับร่างกาย แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เราจะนึกถึงก็คือสเปรย์แบบขวด ซึ่งก็มีหลากหลายกลิ่น และคุณภาพแตกต่างกันไปตามแบรนด์ และแหล่งผลิต แต่วันนี้เราจะเปิดอีกมุมมองของน้ำหอมที่ใช้กับร่างกาย ที่หลายคนยังไม่รู้จัก นั่นก็คือ น้ำหอมแห้ง โดยการสัมภาษณ์พิเศษกับ คุณกอล์ฟ ณัฐกฤตา บุญเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริชเชส บิ้วตี้ คอสเมติก

ณัฐกฤตา บุญเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริชเชส บิ้วตี้ คอสเมติก

คุณกอล์ฟเล่าว่า น้ำหอมแห้งก็คือการนำหัวน้ำหอมที่ได้เป็นน้ำ มาผ่านกรรมวิธีให้กลายเป็นเนื้อบาล์ม เพื่อเปลี่ยนจากการฉีดเป็นการทา ซึ่งเธอทำธุรกิจนี้มาแล้วกว่า 5 ปี เริ่มต้นจากความชอบ และมองว่าน่าจะไปได้ไกล เนื่องจากลูกค้าต้องการสูง แต่ผู้ขายสินค้าประเภทนี้ยังไม่เยอะ บวกกับต้นทุนในการสร้างแบรนด์ของผู้ประกอบการรายย่อยไม่สูงมาก จึงเลือกทำธุรกิจ OEM น้ำหอมแห้ง เพราะมองแล้วว่าทั้งผู้รับผลิต และผู้ประกอบการจะสามารถไปต่อได้อีกยาว

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ น้ำหอมแห้งมีสรรพคุณที่ดีเยี่ยม กลิ่นติดทนนานถึง 7 ชั่วโมง ทาตรงไหนติดตรงนั้น ไม่มีแอลกอฮอล์ และสารเคมีในส่วนผสม มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก อยากทาเมื่อไหร่ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องอาย หรือกลัวว่าจะไปรบกวนใคร เพราะไม่มีความฟุ้งของละอองสเปรย์ ทำให้ไม่มีใครรู้เลยว่าหยิบน้ำหอมมาใช้ โดยสินค้าจากทางร้านจะนำเข้ามาจากประเทศโซนยุโรป

ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำหอมแห้ง ทางบริษัทฯ มีให้เลือกกว่า 500 กลิ่น ใน 3 ประเภท คือ 1. กลิ่นในกลุ่มเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ 2. กลุ่มดอกไม้และสปา 3. ขนมและผลไม้ ซึ่งริชเชส บิ้วตี้ คอสเมติก รับผลิตในราคาเริ่มต้นเพียง 1,900 บาท โดยจะได้เป็นตลับขนาด 3 กรัม จำนวน 100 ชิ้น ตกต้นทุนชิ้นละ 19 บาท (ส่วนใหญ่ ผู้ประกอบการจะนำไปขายปลีกที่ราคา 59 บาท) ในราคานี้ไม่รวมค่าออกแบบฉลากบรรจุภัณฑ์ ค่าส่ง และค่าจดแจ้ง เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้ผู้ประกอบการ เพราะโดยส่วนใหญ่ทางผู้ประกอบการจะมีรูปแบบมาอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าออกแบบ 800 บาท ส่วนค่าจัดส่ง 100 บาท และค่าจดแจ้ง 3,500 บาท ก็แล้วแต่ความสะดวกของผู้ประกอบการเอง ว่าต้องการให้ทางบริษัทดำเนินการให้หรือไม่ ซึ่งเป็นการมอบทางเลือกที่ดีที่สุดให้ลูกค้า

การปรับโมเดลธุรกิจให้เป็นแบบนี้ เพราะเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการรายเล็กที่อยากทำธุรกิจ อาจมีเงินทุนไม่มาก และบางส่วนก็อยากลองตลาดก่อน แต่ถ้าลูกค้าต้องการให้บริษัทพัฒนาสินค้าให้แบบครบวงจร ทางบริษัทก็มีโซลูชั่นนี้ไว้รองรับ ปัจจุบันลูกค้าหลักส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศ เช่น ผู้ค้าออนไลน์ ไปจนถึงนักศึกษา และแม่บ้านที่ต้องการมีรายได้เสริม นอกจากนั้น ยังมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านบางส่วน

ตัวอย่างสินค้า

ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ คุณกอล์ฟบอกว่า เธอเริ่มจากศูนย์ เนื่องจากจะรับออเดอร์จากลูกค้า และเงินมัดจำบางส่วนมาก่อน ถึงค่อยมาผลิตให้ ที่สำคัญคือไม่สต็อกสินค้าไว้เลย เพื่อป้องกันต้นทุนที่ไปค้างอยู่ในสต็อก เลยเข้าใจผู้ประกอบการรายเล็กเป็นอย่างดี ว่าการผลิตสินค้าเพื่อทดลองตลาดก่อน มีความสำคัญอย่างมาก และจากความเข้าใจลูกค้านี้ ก็ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาธุรกิจโตแบบก้าวกระโดดกว่า 150% และมูลค่ารวมธุรกิจสูงถึง 30 ล้านบาท ปัจจุบันมีโรงงานผลิตและเครื่องจักรที่ได้มาตรฐานอยู่ที่อยุธยา มีใบอนุญาตผู้ผลิตจากอ.ย.

คุณกอล์ฟกล่าวทิ้งท้ายว่า ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นบุกเบิกในธุรกิจนี้ แต่ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็น OEM น้ำหอมแห้งรายใหญ่อันดับต้นๆ ความสำเร็จที่ได้มา มองว่ามาจากการหาช่องว่างในธุรกิจน้ำหอมเจอ และยังไม่มีการแข่งขันสูง เพราะคนส่วนใหญ่ที่อยากทำธุรกิจความงาม ก็มักมองแต่สกินแคร์ที่อยู่ในตลาดเรดโอเชียน นอกจากนั้น การพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้น้ำหอมแบบสเปรย์ ก็มีส่วนสำคัญ เพราะทำให้รู้ว่าความต้องการบริโภคน้ำหอมแห้งยังมีอีกมาก เมื่อเทียบกับผู้ขายและผู้ผลิต สังเกตจากการรีออเดอร์ของลูกค้า ที่เพิ่มปริมาณการผลิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนอนาคต ก็จะไม่หยุดพัฒนาสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกใหม่ๆ ในการผลิตน้ำหอมไร้แอลกอฮอล์มากขึ้น

รายละเอียดเพิ่มเติม

098 146 1996

www.riches-oem.com

FB: richesbeautycosmetic

Line@: @riches-oem