การรณรงค์ออกมาตรการให้ประชาชนลด-เลิกการใช้ถุงพลาสติก ของภาครัฐ รวมถึงหน่วยงาน ธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องยังคงดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง

หากย้อนดูสถิติจะพบว่าไทยถูกจัดอยู่ในอันดับ 6 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ทะเลมากที่สุดในโลก โดยสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ((Single-use Plastic) ที่มีอัตราส่วนมากถึง 40% ของขยะพลาสติกทั้งหมดเลยทีเดียว

ดังนั้น เพื่อเป็นการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากพลาสติก จึงจำเป็นต้องหาทางเลือกทดแทน หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม และเป็นมิตรกับธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของงานวิจัย “ถุงลาสติกสลายตัวได้สำหรับขยะอินทรีย์” ซึ่งเป็นผลงานความร่วมมือเอ็มเทค สวทช. ที่ร่วมกับ บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการ เอ็มเทค สวทช. กล่าวว่า ผลงาน "ถุงพลาสติกสลายตัวได้สำหรับขยะอินทรีย์” พัฒนาสูตรพลาสติกชีวภาพขึ้นโดยใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศไทยคือ แป้งมันสำปะหลัง นำมาแปรรูปเป็นพลาสติกและทำการผสมสูตรเพื่อเพิ่มสมบัติทางวิศวกรรมให้เหมาะสมกับการนำไปขึ้นรูปเป็นฟิล์มบาง โดยเตรียมประเดิมใช้ในงานกาชาด 2562ตั้งแต่วันที่ 15-24 พฤศจิกายน 2562 ณ สวนลุมพินี เป็นที่แรก

จุดเด่นของถุงพลาสติก

ดร.นพดล เกิดดอนแฝก นักวิจัยทีมวิจัยเทคโนโลยีพลาสติก กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง เอ็มเทค สวทช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ถุงพลาสติกย่อยสลายตัวได้” สามารถย่อยสลายไปพร้อมกับอาหารภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่หากนำไปใช้จริงอุณหภูมิในธรรมชาติที่สูงกว่าในห้องทดลองจะยิ่งเป็นตัวช่วยให้การย่อยสลายไปพร้อมๆ กับเศษอาหารภายใน 30 วัน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘การสร้างสุขนิสัยให้เกิดการแยกขยะเพื่อให้ถุงพลาสติกย่อยสลายได้นี้ทำงานเกิดประสิทธิภาพที่สุด’” ดร.นพดล กล่าว

ทั้งนี้ “ถุงพลาสติกย่อยสลายตัวได้” จะมี 2 ขนาดด้วยกัน คือ ถุงหน้ากว้าง 18 นิ้ว สำหรับใช้ตามร้านขายอาหาร และถุงหน้ากว้าง 30 นิ้ว สำหรับโดยจะวางภายในงานกาชาดตามจุดคัดแยกมากกว่า 40 จุด