วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

เผยผลสำรวจพนักงานไทยมีความผูกพันกับองค์กร โดยมีอัตราการลาออกต่ำที่สุดในโลก

by Smart SME, 3 กุมภาพันธ์ 2563

ผลสำรวจพบว่าบริษัทในประเทศไทยได้รับประโยชน์จากจำนวนพนักงานลาออกต่ำที่สุดในโลก โดยพนักงานในประเทศไทยมีเพียง 8% เท่านั้นที่ตั้งใจจะทำงานอยู่กับบริษัทเป็นเวลาน้อยกว่า 1 ปี

ผลการศึกษาของ Qualtrics เรื่อง แนวโน้มประสบการณ์ของพนักงานในปี 2563 หรือ 2020 employee experience trends พบว่ามีทั่วโลกมีพนักงาน 18% ตั้งใจจะอยู่กับบริษัทเดิมน้อยกว่า 1 ปี

ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่มีอัตราการลาออกของพนักงานต่ำ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น (11%) และเยอรมนี (13%) ส่วนประเทศที่มีอัตราการลาออกสูงได้แก่ ออสเตรเลีย (23%), นิวซีแลนด์ (23%) และสหราชอาณาจักร (23%)

เมื่อพูดถึงความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร พนักงานในประเทศไทยมีความผูกพันกับองค์กรมากถึง 72% ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่มีอัตราส่วน 53% และเป็นลำดับสอง รองจากอินเดียที่มีอัตราส่วน 79% และตามมาด้วยฮ่องกงที่อัตราส่วน 63%

ผลกระทบเชิงบวกของความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพนักงานรุ่นใหม่หากรักษาให้อยู่กับองค์กรได้นาน จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและเร็วขึ้น จากการคาดการณ์เรื่องนี้ องค์กรจะได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้น 2.5 เท่า จากการเติบโตของรายได้ที่สูงขึ้นเมื่ออัตราส่วนการลาออกของพนักงานลดลง

ส่วนปัจจัยสำคัญในการผลักดันประสบการณ์พนักงานในไทย เกือบสองในสามของพนักงานในประเทศไทยเชื่อว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่นายจ้างรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา องค์กรธุรกิจที่มีโปรแกรมเปิดรับฟังความคิดเห็นของพนักงานจะทำให้ระดับความผูกพันของพนักงานเพิ่มสูงขึ้นมาก

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายของสังคมผู้สูงอายุ ความคาดหวังของพนักงานคือการ “เปลี่ยน” ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน ผู้นำและผู้จัดการจำเป็นต้องลงทุนในการพัฒนาสายอาชีพให้กับกลุ่มพนักงานของตน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรรักษาคนเก่งเอาไว้ได้

อ้างอิง:


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line