แม้ว่าความต้องการหน้ากากป้องกันไวรัสโคโรนาของผู้คนจะมีมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของ 3M ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกดีขึ้น โดยบริษัทเตรียมปลดพนักงาน 1,500 คนทั่วโลก หลังเผชิญกับยอดขายในเอเชีย และยุโรปที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

3M ดำเนินการปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน 2562 ทางบริษัทได้มีการปลดพนักงาน 2,000 ตำแหน่ง เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และล่าสุดเตรียมจะปลดพนักงานอีก1,500 คนทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะมาจากผลประกอบการในไตรมาส 4 ที่ไม่ค่อยดีนัก

Mike Roman ซีอีโอของ 3M กล่าวว่า บริษัทต้องเผชิญความท้าทายกับตลาดที่ไม่ค่อยเสถียร โดยเฉพาะในจีนที่มีความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา

นอกจากนี้ 3M ยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่กระทบต่อหุ้นบริษัทในเดือนเมษายน 2019 ที่ร่วงลง 13% ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปี

ในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าผู้คนมีความต้องการหน้ากากเพื่อใส่ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนามากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้บริษัทสร้างรายได้กลับมา เพราะ 3M ดำเนินธุรกิจผลิตสินค้าหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กระดาษโน๊ต, กระดาษโพสต์อิท, สก๊อตช์เทป ไปจนถึงหน้าจอสัมผัส ซึ่งมีการปิดโรงงานชั่วคราวเพื่อป้องกันโรคระบาดดังกล่าวทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ 3M ด้วยเช่นกัน

ที่มา: bloomberg