สถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะยังคงเป็นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ในขณะนี้ และดูเหมือนว่ายังไม่คลี่คลายเท่าไรนัก ซึ่งเมื่อเรื่องที่ไม่คาดคิดนี้เกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย ที่จะได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสดังกล่าวไปเต็ม ๆ

เป็นที่ทราบดีว่าประเทศไทยนั้นมีรายได้หลักมาจากเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายสิบล้านคนที่เดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะชาวจีนที่มีผู้คนเดินทางมาเป็นอันดับ 1 อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาจจะส่งผลกระทบ สร้างความเสียหายมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จากการที่จำนวนคนจีนลดน้อยลง

โดยในบทความนี้ เราได้นำการประเมินถึงความเสียหายของไวรัสโคโรนาของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) จะมากน้อยแค่ไหนมาดูกัน

รายได้หายไปกว่าแสนล้านบาท

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ประเมินว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนในครึ่งปี 2563 หายไปกว่า 2.4 ล้านคน และตลอดทั้งปีภาคการท่องเที่ยวไทยจะสูญรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 0.7% ของ GDP

โดยภาคการท่องเที่ยวไทยจะส่งผลกระทบหนักที่สุดในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 1.5 ล้านคน และทยอยปรับดีขึ้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จนกลับมาอยู่ในระดับปกติได้ในช่วงกลางปี

ธุรกิจท่องเที่ยวรับผลกระทบไปตาม ๆ กัน

สำหรับธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบต่อการขาดหายไปของนักท่องเที่ยวจีนคงหนีไม่พ้นธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม 7,500 ราย ที่จะขาดรายได้ไป 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง 459 รายและขนาดเล็ก 6,990 ราย ขณะที่คุณภาพสินเชื่อโรงแรมขนาดกลางเปราะบางยอด NPL รวมหนี้ที่ต้องระวัง (SM) สูงถึง 18%

ไม่เพียงเท่านั้น ธุรกิจค้าปลีกจะมีรายได้ลดลง 2.84 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารที่รายได้ลดลง 1.89 หมื่นล้านบาท และธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทาง-ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว รายได้จะหายไป 2.92 หมื่นล้านบาท

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีประเมินว่าผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้านโรงแรมจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยเฉพาะโรงแรมขนาดกลางที่รายได้จะลดลงถึงร้อยละ 49 รองลงมาเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่รายได้ลดลงร้อยละ 31 และโรงแรมขนาดใหญ่รายได้ลดลงร้อยละ 20

จังหวัดไหนได้รับผลกระทบหนักที่สุด

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสูงคงหนีไม่พ้นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวได้แก่ กรุงเทพฯ (32%) ภูเก็ต (29%) ชลบุรี (14%) กระบี่ (7%) สุราษฎร์ธานี (7%) เชียงใหม่ (5%) และพังงา (2%) ซึ่งมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรวม 4,763 ราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 65% ของจำนวนผู้ประกอบโรงแรมไทยทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ร้อยละ 70 โดยนักท่องเที่ยวจีนลดลง 2.4 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรก และจะเริ่มกลับมาขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งส่งผลต่อการประเมินยอดรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2563 จากเดิมที่ 40.8 ล้านคน ลดลงเหลือ 38.7 ล้านคน ส่วนภาคการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะมีรายได้ลดลงกว่า 1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.7 ของ GDP