อ่วมไม่แพ้กัน! ผู้ค้า เอเชียทีคฯ นัดเจรจาขอลดค่าเช่าหลังพิษโควิด-19 ทำลูกค้าหาย 80%


สถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศจีน รวมทั้งไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ยังคงส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบรรดาผู้ค้าขายที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งยุโรปและเอเชียที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายของใช้ของฝาก

กรณีของกลุ่มผู้เช่าภายในศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน ที่ออกมาเดินขบวนภายในศูนย์การค้าฯ เพื่อขอให้เจ้าของศูนย์การค้าฯ ลดค่าเช่าลง 50% หรือยกเลิกเก็บค่าเช่า เนื่องจากได้รับผลกระทบหนักจากไวรัสโควิด-19 ระบาด นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติลดลงมาก ได้ข้อสรุปว่า จะมีการลดค่าเช่าพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการร้านค้าภายในศูนย์การค้าตามสัดส่วนประเภทการเช่า ตั้งแต่ 10%-20% เป็นระยะเวลา 6 เดือน 

ล่าสุด ด้านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทยอย่าง เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อน ย่านเจริญกรุง ก็พบว่าประสบชะตากรรมนักท่องเที่ยวลดลงไม่แพ้กัน โดยตัวแทนของร้านค้าเอเชียทีค จะมีการรวมตัวเพื่อเจรจากับผู้บริหาร เพื่อขอปรับลดค่าเช่าลงจากเหตุการณ์ไวรัสโควิค 19 ที่ยังคงแพร่ระบาดและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการลดลงเกือบ 80%

ตัวแทนร้านค้าท่านหนึ่ง เผยกับ Smart SME ว่า ทางร้านค้าที่ประสบปัญหาหลายรายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้มีการเจรจาแล้ว ถึง 2 รอบด้วยกัน แต่ผลที่ได้รับยังไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยเป็นการลดค่าเช่า 20% เพียง 1 เดือน จึงได้มีการรวมตัวกันหาข้อสรุปที่ชัดเจนและนัดพูดคุยเพื่อขอความเห็นใจจากผู้บริหารให้ลดค่าเช่าในอัตราที่เป็นธรรมกว่านี้

 

เนื่องจากที่ผ่านมา ร้านค้าที่เข้ามาค้าขายที่เอเชียทีค จะเป็นกลุ่มที่ย้ายจากสวนลุมไนท์บาซาร์ ซึ่งลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 100% แต่เมื่อมีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ส่งผลกระทบกับร้านค้าจำนวนมาก ไม่มีนักท่องเที่ยว ยอดขายไม่เพียงพอกับค่าเช่าที่เสียไป แม้ว่าที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบแต่ฝั่งผู้ค่าไม่มีการเรียกร้องแต่อย่างใด กรณีของไวรัส โควิด-19 ถือว่าหนัก และอยากขอความเห็นใจจากฝ่ายผู้บริหารให้ลดค่าเช่าลง ให้ร้านค้าในพื้นที่ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันจากนั้น จะปรับกันอย่างไร ค่อยมาดูกันอีกที

 

ทั้งนี้ ตัวแทนร้านค้ารายดังกล่าว ได้ระบุถึงข้อเรียกร้อง 4 ข้อที่จะมีการหาข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ประกอบด้วย

 

1. ขอให้คงค่าเช่าในราคาเดิมไปก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาร้านค้าจะมีการทำสัญญาเป็นแบบปีต่อปี ซึ่งทุก ๆ ปีจะมีการปรับราคาค่าเช่าขึ้น จึงขอให้คิดค่าเช่าในอัตราเดิม

2. ขอให้ปรับลดค่าเช่าลง 50% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้ร้านค้าอยู่ได้และไม่กระทบต่อยอดขายที่จำนวนลูกค้าน้อยลง

3. ขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์การเยียวยา เช่น ผู้ที่่มีการค้างชำระ, ผ่อนชำระไม่ตรงเวลา หรือผู้ที่ไม่ต่อสัญญาในปีหน้า ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย

4. ขอให้พิจารณาเปลี่ียนทีมผู้บริิหารชุดปัจจุบัน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ค้าประสบปัญหาจากการบริหารงานที่อาจจะผิดพลาดจากการปรับเปลี่ยนผู้บริิหารมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี หากมีการตกลงในเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อในวันพรุ่งนี้นั้น แม้ว่าจะไม่ได้ตามข้อเรียกร้องทั้งหมดที่ผู้ค้าร้องขอ แต่อยากให้ความช่วยเหลือจากฝั่งผู้บริหารเกิดขึ้นด้วยความเป็นธรรม และอยู่รอดทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตและไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดวันไหน