หากใครเคยติดตามเรื่องราวของการใช้ชีวิตของผู้คนในปักกิ่ง ประเทศจีน จากเพจที่นำเสนอเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจ บอกเล่าเรื่องราวแบบเจาะลึกถึงไลฟ์สไตล์คนพื้นที่ ทั้งด้านกินเที่ยว เรียน ทำงาน เทคโนโลยี ไปจนถึงการอัปเดทข่าวสารรอบด้านในเมืองจีนให้แฟนเพจได้รับรู้แบบง่าย ๆ วันนี้ Smart SME จะพาไปรู้จักสาวสวยคนเก่ง คุณออย เจ้าของเพจ โอ้โหBeijing – สารพัดเรื่องในปักกิ่ง กันค่ะ

ทำไมต้อง โอ้โหBeijing – สารพัดเรื่องในปักกิ่ง

คุณออย เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานประจำเป็นสาวออฟฟิศมาก่อน โดยทำเกี่ยวกับด้านฟินเทค ประมาณ 3-4 ปี ถ้าถามเรื่องประสบการณ์ต้องบอกว่าไม่เคยทำรูปแบบของเฟซบุ๊กเพจมาก่อนเลย แต่เป็นคนที่ชอบติดตามเวลามีใครมาแชร์เรื่องราวในเฟซบุ๊ก ก็จะชอบอ่าน ชอบดูเป็นทุนเดิม

...ระหว่างที่คบกับแฟน ก็จะต้องเดินทาง ไป ๆ มา ๆ ที่จีนหลายปี ทำให้ได้เห็นหลายอย่างที่ประเทศเขาทำได้ดี เราก็อยากจะนำเสนอให้คนที่ไทยเห็นบ้างว่าตอนนี้เขาพัฒนาไปถึงแบบนี้แล้วนะ แต่เมื่อก่อนตอนที่อยู่ไทย ยังไม่ได้ทำเพจออกมา แต่จะใช้วิธีแชร์เรื่องพวกนี้ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของตัวเอง เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook), ไอจี (Instagram) เพื่อเล่าเรื่องราวเวลาเรามาจีนแต่ละครั้ง

จุดเริ่มต้นของเพจ โอ้โหBeijing – สารพัดเรื่องในปักกิ่ง เริ่มทำตอนที่เราต้องย้ายมาอยู่นี่แบบถาวร เลยเริ่มทำเพจนี้ขึ้นมา เพราะสิ่งที่เราพบเจอในแต่ละวันมันมีหลาย ๆ อย่างที่ว้าว! แล้วเขาทำได้จริง ช่วงที่เราทำงานอยู่ที่ไทยอย่างที่บอกว่าเราก็ทำงานเกี่ยวกับด้านเทคฯ เราก็เคยนำเสนอไอเดียพวกนี้กับทางผู้ใหญ่ไป แต่ติดอยู่ในช่วงกระบวนการคิดยังไม่ได้เอาไปต่อยอด หรือทำเป็นโปรดักส์ออกมาจริงจัง เราก็เลยอยากมาแชร์เรื่องราวพวกนี้ในโซเชียล หวังว่าจะมีคนนำไอเดียจากจีนที่เราเสนอไป ต่อยอดและพัฒนาทำให้เกิดขึ้นจริงในไทยค่ะ

คุณออย บอกอีกว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกทำเพจ โอ้โหBeijing – สารพัดเรื่องในปักกิ่ง ขึ้นมาคือ อยากให้ครอบครัวที่ไทยได้รู้ข่าวคราวความเป็นอยู่ทางนี้ด้วย เพราะตอนที่จะย้ายมาปักกิ่งก็จะมีเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน ที่จะคอยบอกเราว่ามาจีนแล้วลำบาก ยังคิดว่าบ้านเมืองยังไม่พัฒนา พอเล่าสื่อสารออกไปเขาจะได้เห็นด้วยว่า "ตอนนี้...ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะมากแล้ว"

“Covid-19” เปิดประตูต้อนรับพลเมืองคนใหม่

คุณออยเล่าต่อว่า “....วันที่เราย้ายมาอยู่ปักกิ่ง คือวันที่ 31 ธันวา ปีที่แล้ว มาได้แปบเดียว ก็มีข่าวไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ระบาดเลยค่ะ แต่ตอนนั้นที่จีนยังไม่มีข่าวนี้ เวลาที่เราติดตามดูข่าวจากไทยแล้วไปถามคนจีน คุยกับใครหรือถามใครก็ไม่มีใครรู้ จนมาช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนที่คนจีนเริ่มจะรู้จักโรคนี้กันมากขึ้น

...ออยเพิ่งเขียนเพจนี้วันแรกเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ค่ะ กำลังจะครบเดือนเร็ว ๆ นี้ ซึ่งลงคอนเทนต์แรก คือ เป็นเรื่องของทางสถานทูตฯ ที่แจ้งข้อความผ่านทางวีแชทกรุ๊ป ว่าจะมีแจกหน้ากากและถุงมือให้ไปรับได้ พอเราไปรับมาแล้วเลยมาบอกต่อในโซเชียลค่ะ พอลงไปคอนเทนต์แรกนั้น ปรากฎว่าฟีดแบคดีเลยค่ะ คนที่ประเทศไทยก็ได้รู้ข่าวคราวด้วยว่าทางสถานทูตให้การดูแลคนไทยที่นี่ดี”

ช่วงที่เราได้ยินชื่อของไวรัสโคโรนา อาจจะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเป็นการแพร่เชื้อไวรัสที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว และแพร่กระจายไปเป็นวงกว้าง ซึ่งเธอบอกว่า

“....ตอนแรกเลยเราไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ค่ะ แต่ก็มีคิดไว้แล้วบ้างว่ายังไงก็ระบาดทั่วประเทศ ทั่วโลกแน่ ๆ เพราะอัตราการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของคนจีนสูงมาก คนจีนชอบเดินทางทั้งทำงานและท่องเที่ยวในต่างประเทศ พอมาช่วงก่อนหยุดตรุษจีนประมาณ 1-2 อาทิตย์ ตอนนั้นคนจีนเดินทางกันหมดแล้ว ตามถนนรถก็หายไปเกินครึ่ง เราก็คิดว่าแย่แน่ ๆ เพราะที่ปักกิ่งก็มีคนต่างถิ่นที่ทั้งเข้ามาทั้งเรียน ทั้งทำงานเยอะด้วย ตั้งแต่นั้นก็ไม่กล้าออกไปเดินห้างแล้วค่ะ เราก็ระวังตัวเองให้ดีที่สุด

ปรับตัว รับสถานการณ์

....จนถึงตอนนี้ยังคิดอยู่เลยว่ารอดมาได้ยังไง เพราะช่วงกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมามีวันหนึ่งเราต้องนั่งรถไฟใต้ดินเข้าออฟฟิศแล้วคนเยอะมากกก... เบียดแบบสุด ๆ ในขบวน (ที่ปักกิ่งจะมีวันที่ห้ามขับรถค่ะ ตามเลขทะเบียนลงท้าย จะเวียน ๆ กันไปในแต่ละวันของสัปดาห์) ซึ่งโชคดีที่ทางบ้านเรารีบสั่งซื้อหน้ากากตั้งแต่ได้ข่าวจากไทยใหม่ ๆ เลยค่ะ เลยยังพอมีใช้ ไม่ขาดแคลนอะไร

ช่วงนี้ พอทางคอนโดฯ รู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ ก็จะตรวจสอบกันถี่มาก ๆ ทั้งมาหาที่บ้าน ทั้งโทรศัพท์มาสอบถามว่าเรามีออกจากปักกิ่งไปไหนมาไหนไหม ขอประวัติเที่ยวบิน การศึกษา ที่ทำงาน รายละเอียดเยอะมากเลย ที่นี่ตามแต่ละตึกที่พัก จะมีตำรวจและเจ้าหน้าที่คอนโดฯ มาตั้งเต้นท์ตรวจคนเข้า-ออกตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยค่ะ

Update สถานการณ์ล่าสุดที่ปักกิ่ง

...ดีขึ้นเยอะมากแล้วค่ะ คนเริ่มออกจากบ้านกันแล้ว ตอนนี้พวกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ไม่ขาดตลาดแล้วค่ะ ร้านของชำ หรือซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปก็มีของขายตามปกติ แต่จะระวังตัวเองกว่าแต่ก่อน ต้องใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เลี่ยงการสัมผัสในที่สาธารณะแล้วก็ล้างมือบ่อย ๆ ช่วงนี้สื่อทีวีและวิทยุที่นี่จะออกมาเตือนประชาชนอยู่ตลอดค่ะ

เป็นอีกหนึ่งการนำเสนอเรื่องราวจากต่างแดนจากการเล่าเรื่องง่าย ๆ แต่สนุกและน่าสนใจโดยคนไทยที่ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่แบบถาวร หากใครสนใจการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนปักกิ่ง โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในขณะนี้ โอ้โหBeijing มีแง่มุมของการนำเสนอข้อมูลดี ๆ รอให้ติดตามค่ะ....^^

ขอขอบคุณ คุณออย : เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ โอ้โหBeijing – สารพัดเรื่องในปักกิ่ง