แพลตฟอร์มการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่กลายเป็นเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงในช่วงที่ผ่านมา อาจจะด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้แพลตฟอร์มดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในชีวิตประจำวัน

ปัจจุบันเราจะเห็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่อยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน ซึ่งแต่ละรายมีการนำเสนอโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงการปรับกลยุทธ์ทางด้านบริหารโดยใช้วิธีควบรวมกิจการเพื่อเป็นการลดต้นทุนทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้น

สำหรับในอนาคตเราอาจจะได้เห็นดีลสะท้านวงการเดลิเวอรี่อีกครั้ง เมื่อ Grab และ Gojek ใกล้ปิดรายละเอียดการเจรจาพูดคุยควบรวมธุรกิจเข้าด้วยกันในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นดีลทางด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

ที่ผ่านมา ทั้ง Grab และ Gojek ล้วนเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดเดลิเวอรี่ในการแย่งชิงลูกค้าอย่างหนักหน่วง พร้อมกับทุ่มงบประมาณลงไปเป็นจำนวนมาก โดยนักวิเคราะห์มองว่า หากปล่อยเป็นอย่างนี้ต่อไปทั้งสองธุรกิจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย และการควบรวมกิจการจะเป็นการช่วยลดต้นทุนอีกด้วย

สำหรับดีลนี้พบว่ามี SoftBank ให้การสนับสนุน ซึ่งรายละเอียดของการพูดคุยเจรจากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย โดยภายใต้โครงสร้างใหม่นี้ Anthony Tan ผู้ร่วมก่อตั้ง Grab จะกลายเป็นซีอีโอของบริษัท หากมีการควบรวมธุรกิจเข้าด้วยกัน ขณะที่ผู้บริหารของ Gojek จะบริหารงานธุรกิจที่ถูกควบรวมใหม่ในอินโดนีเซีย

แหล่งข่าวที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg เผยว่า ทั้งสองแพลตฟอร์มต่างทำงานแยกกันมาเป็นระยะเวลานาน และการควบรวมกิจการในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แม้ว่าทั้ง 3 ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น Grab, Gojek และ Softbank ต่างปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่แหล่งข่าววงในระบุว่า การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น และจะไม่ส่งผลต่อการทำธุรกิจแต่อย่างใด

จากคู่แข่งสู่พาร์ทเนอร์ธุรกิจ

Grab และ Gojek ใช้งบประมาณทุ่มลงไปในตลาดอย่างหนักเพื่อแย่งชิงผู้บริโภค ทั้งกลยุทธ์ด้านราคา, ด้านการชำระเงิน ตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยนักลงทุนมองว่าการควบรวมกิจการเข้าด้วยกันจะช่วยลดต้นทุน พร้อมทั้งเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบัน Grab มีมูลค่าทางธุรกิจอยู่ที่ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยให้บริการใน 8 ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, เมียนมา, กัมพูชา และไทย ขณะที่ Gojek มีมูลค่าทางธุรกิจอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยให้บริการใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, ไทย และเวียดนาม

ที่มา: bloomberg