หลังจากมีข่าวออกมาว่า Nissan แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังจากญี่ปุ่นเตรียมเลิกผลิตรถยนต์สันดาปทั้งในตลาดจีน และญี่ปุ่น โดยปัจจุบัน Nissan ได้หยุดผลิตรถยนต์สันดาปที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่ขายในตลาดยุโรปเป็นที่เรียบร้อย

การหยุดกระบวนการผลิตในครั้งนี้ของ Nissan ก็เพื่อมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นเทรนด์ของโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตข้างหน้า แน่นอนว่าตอนนี้หลายแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มวางแผนเดินหน้าธุรกิจเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยไม่นานมานี้ เราได้เห็น Honda ที่เตรียมปิดโรงงานผลิตแม่ที่มีอายุการทำงานเกือบ 60 ลง พร้อมปรับกลยุทธ์เดินหน้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว

• Honda เตรียมปิดโรงงานผลิตแม่ คาดเดินหน้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว

อย่างไรก็ตาม เรื่องหนึ่งที่เป็นคำถามเกิดข้อสงสัยในเนื้อข่าว คือรถยนต์สันดาป คืออะไร มีความแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าในเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อลองค้นข้อมูลจะพบว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปจะเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน หรือมองภาพให้นึกออกก็คือรถยนต์ที่เข้าไปเติมน้ำมันตามปั๊ม เครื่องยนต์มีเสียงดัง มีการกระชากจากการเร่งเครื่อง หรือเปลี่ยนเกียร์ เนื่องจากเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึง ส่วนการดูแลรักษาสามารถทำได้ง่าย โดยการเข้าศูนย์ หรืออู่รถยนต์ทั่วไป แต่ทางมองในเรื่องของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะพบว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปจะปล่อยมลพิษ สร้างเสียงรบกวยในแวดล้อมรอบข้าง

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานจากการชาร์จไฟฟ้าตามสถานีชาร์จ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงครึ่งวัน แล้วแต่อัตราการเติมพลังงาน) ซึ่งเครื่องยนต์จะมีเสียงเงียบกว่า มีชิ้นส่วนทั้งคันน้อย ซ่อมบำรุงได้รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนในเรื่องการขับนั้นจะมีความนุ่มนวล ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยควบคุม

การที่รถยนต์สันดาปกำลังค่อย ๆ หมดไป จากการลดกำลังผลิตของแบรนด์รถยนต์ เป็นการปรับตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ มองหาพลังงานใหม่ ๆ เพื่อมาทดแทนพลังงานเก่า ๆ นั่นคือน้ำมัน ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกใช้รถยนต์ตามความเหมาะสม

ที่มา: กระทรวงพลังงาน, asia.nikkei