ก่อนหน้านี้ McDonald’s แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังระดับโลกได้ประกาศหยุดกิจการในรัสเซียชั่วคราว เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่รัสเซียรุกรานยูเครน แต่มาล่าสุด McDonald’s ตัดสินใจที่จะขายธุรกิจในรัสเซียทั้งหมด

คำแถลงจาก McDonald’s ระบุว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ก่อขึ้นในสงครามยูเครน และสภาพแวดล้อมการทำงานที่คาดเดาไม่ได้ นำมาสู่ขอสรุปที่ว่า McDonald’s ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจในรัสเซียไม่สามารถดำเนินการได้อีกต่อไป และไม่สอดคล้องกับค่านิยมของธุรกิจ โดยกองกำลังรัสเซียนำโดยวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดี ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามหลายครั้งระหว่างโจมตียูเครน

การบอกลาหยุดกิจการของ McDonald’s จากรัสเซียถือเป็นจุดจบอันขมขื่นของยุคที่เคยให้ความหวัง เพราะเป็นหนึ่งในธุรกิจซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอเมริกาที่สร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดย McDonald’s เข้ามาเปิดสาขาแรกในรัสเซียเมื่อ 32 ปีที่แล้ว และกลายเป็นหนึ่งแบรนด์ยอดนิยมของชาวรัสเซีย ซึ่งครั้งหนึ่งมีผู้คน 100 คนต่อแถวเพื่อซื้อเบอร์เกอร์ และเฟรนช์ฟรายส์บริเวณจัตุรัสพุชกินในกรุงมอสโก

ปัจจุบัน McDonald’s มีมากกว่า 800 สาขา และมีพนักงานจำนวน 62,000 คน ในรัสเซีย โดยมีธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์ดำเนินการเพียง 15% ขณะที่เหลือบริษัทเป็นเจ้าของ

ตอนนี้ McDonald’s กำลังมองหาผู้ซื้อในท้องถิ่น โดย Chris Kempczinski ซีอีโอ McDonald’s กล่าวว่าเรามีความมุ่งมั่นต่อชุมชนระดับโลก และยืนหยัดในค่านิยมของเรา ซึ่งหมายความว่าเราไม่สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป หลังจากนี้ McDonald’s จะเริ่มกระบวนการ de-Arching ทั้งการลบชื่อ, โลโก้, เมนู และแบรนด์ดิ่งจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเครื่องหมายการค้าในรัสเซียไว้

นอกจากนี้ บริษัทยังสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานในประเทศจะได้รับเงินต่อไปจนกว่าข้อตกลงจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และพยายามช่วยเหลือให้ได้งานภายใต้เจ้าของใหม่ ส่วนร้าน McDonald’s ในยูเครนยังคงปิดอยู่ แต่บริษัทยังคงดำเนินการจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวนให้กับพนักงาน

ที่มา: cnbc