ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างเคเอฟซีในออสเตรเลียต้องเปลี่ยนมาใส่กะหล่ำปลีในเบอร์เกอร์ และแรป เพราะว่าประเทศกำลังดิ้นรนกับปัญหาขาดแคลนผักกาดหอม

บริษัทแจ้งกับลูกค้าว่าจะใช้ส่วนผสมของผักกาด และกะหล่ำปลี หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้ทำลายสวนผักกาด จนส่งผลต่อผู้ซื้อที่ได้รับผลกระทบราคาผัก และผลไม้พุ่งสูงขึ้น โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งโพสต์รูปภาพราคาผักกาดหอมสูงกว่า 10 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 248 บาท) ซึ่งเพิ่มเป็น 3 เท่าจากราคาปกติ

ด้านเว็บไซต์เคเอฟซีออสเตรเลีย กล่าวว่าอุทกภัยครั้งล่าสุดในนิวเซาท์เวส์ และควีนส์แลนด์ ทำให้เรากำลังประสบปัญหาขาดแคลนผักกาด ดังนั้น เราจึงใช้กะหล่ำปลีเข้ามาผสมในทุกเมนูที่มีผักกาดหอมจนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น โดยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบอาหาร โดยย้อนกลับไปในเดือนมกราคม เคเอฟซีออสเตรเลียต้องปรับเปลี่ยนเมนูเนื่องจากขาดส่วนผสมหลัก คือไก่ เพราะว่าบริษัท Ingham's ซัพพลายเออร์ไก่รายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียขาดแคลนพนักงาน เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ตามรัฐต่าง ๆ

เช่นเดียวกับ McDonald's ก็ประสบปัญหาขาดแคลนชิปในบางสาขาของเอเชีย รวมถึงญี่ปุ่น และสิงคโปร์ อันเนื่องมาจากวิกฤตห่วงโซ่อุปทานโลก

สำหรับออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานอาหารที่เกิดจากสงครามในยูเครน และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงเท่านั้น ผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อต้นปีส่งผลต่อการผลิตอาหารเหมือนกัน ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันต่อค่าครองชีพของชาวออสเตรเลีย ดูได้จากราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้น 5.1% ในไตรมาสแรกของปี 2022 โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงสุดของประเทศในรอบ 20 ปี และถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ที่มา: bbc