Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เผยประเทศต้องการมองหาทางเลือกทั้งหมด โดยพิจารณาร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย รวมทั้งอินเดีย และจีนในการซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพื่อชดเชยต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

อินโดนีเซียไม่ได้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมาเป็นระยะเวลาหลายปี แต่รัฐบาลภายใต้การนำของ Widodo กำลังอยู่ภายใต้การกดดันที่เพิ่มขึ้นในเรื่องของราคาต้นทุนที่เพิ่มสูง หลังจากราคาเชื้อเพลิงบางส่วนขึ้นราคา 30% หลังตัดสินใจเลิกอุดหนุนราคาพลังงาน

สถานการณ์พลังงานระดับโลกนั้น สหรัฐฯ ได้ขู่จะคว่ำบาตรต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยไม่ทำตามมาตรการซื้อน้ำมันตามราคาที่กำหนดโดยกลุ่ม G7 ซึ่งอินโดนีเซียสุ่มเสี่ยงถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

Joko Widodo ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เกี่ยวกับประเด็นถามการซื้อน้ำมันจากรัสเซียว่า เรามอนิเตอร์ทางเลือกทั้งหมดอยู่เสมอ หากมีประเทศที่ให้ราคาที่ดีกว่า รัฐบาลมีหน้าที่หาแหล่งต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประชาชนหาแหล่งนำเข้าเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และเราต้องหาทางแก้ไข

Widodo ยังแสดงความคิดเห็นอีกว่าเป็นเรื่องยากสำหรับหลายประเทศ เพราะว่าพวกเขาพยายามนำทางภูมิศาสตร์การเมือง และวิกฤตพลังงานได้ส่งผลกระทบครัวเรือน และธุรกิจทั่วโลก

อินโดนีเซียดำเนินนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับชาติมหาอำนาจมาอย่างช้านาน โดย Widodo ไปเยือนทั้งกรุงมอสโก และเคียฟในเดือนมิถุนายน เพียงไม่กี่เดือนหลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเชื้อเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20

ด้าน David Sumual หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Bank Central Asia ในกรุงจาการ์ตา กล่าวว่ามันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ดีจริง ๆ หากรัฐบาลไม่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า Pertamina บริษัทน้ำมันของอินโดนีเซีย ได้รับข้อเสนอจากรัสเซียที่จะขายน้ำมันให้กับอินโดนีเซียในราคาต่ำกว่า 30% จากราคาที่ขายในตลาด แต่สหรัฐฯ ออกมาขู่ว่าจะคว่ำบาตรผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ที่มา: afr

#Smartsme #อินโดนีเซีย #น้ำมัน #เชื้อเพลิง