เมื่อไม่นานนี้ ศูนย์ 7-Eleven สนับสนุน SME ซีพี ออลล์ ร่วมกับ สมาคมเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย จัดงานสัมมนา "SME ปี 2023 พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป SME ยุคใหม่ต้องเปลี่ยนตาม” เพื่ออัปเดตเทรนด์ของ SME ที่ควรทราบในปี 2566 โดยสรุปได้ดังนี้

1. กลุ่มสินค้าสำหรับผู้สูงวัย เนื่องจากไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมสู่วัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทำให้กลุ่มคนสูงวัยต่างสนใจสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ หรือนวัตกรรมที่ช่วยสร้างประสบการณ์ดีๆ สิ่งที่น่าสนใจคือลูกค้าผู้สูงวัยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่สูง เพราะไม่มีภาระด้านค่าใช้จ่ายมาก มีเงินออม หรือเงินบำนาญ ไว้ใช้สำหรับการซื้อสินค้า

2. กลุ่มสินค้าเพิ่มความสะดวก ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันต่างชอบความสะดวกสบาย เห็นได้จากสินค้ากลุ่ม Ready-to-Eat ที่มาแรงมาก SME จึงควรมองถึงการพัฒนาสินค้าเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา (Shelf life) หรือแม้แต่การลดขั้นตอนการบริโภค เช่น ผลไม้หั่นพร้อมทาน

3. กลุ่มสินค้าที่ต่อยอดเอกลักษณ์จากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เนื่องจากผู้คนหันมาให้ความสนใจในสินค้าท้องถิ่นหรือ Local Lover อีกครั้ง หลังการคลี่คลายของโควิด 19 โดยเฉพาะสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ที่การันตีได้ในเรื่องคุณภาพและแหล่งที่มา ดังนั้นหาก SME สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ก็จะทำให้ธุรกิจมีโอกาสมากขึ้น

คุณรัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น แบรนด์บ๊วยรัศมีแข สินค้าต่อยอดเอกลักษณ์จากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เล่าว่า เราเริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2561 จากการมีโอกาสได้เข้าไปชิมบ๊วยในโรงงานของเพื่อนสนิทคุณแม่ ซึ่งอร่อย เคี้ยวเพลิน และเหมาะต่อการนำมาต่อยยอดเป็นธุรกิจในสไตล์ของตนเอง จึงพัฒนาแบรนด์บ๊วยรัศมีแข พร้อมมองถึงช่องทางจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และการขายในเซเว่น กระทั่งผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดได้นำสินค้าไปขายในเซเว่นบริเวณปั๊ม ปตท. กว่า 500 แห่ง ทำให้เรามีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีส่วนช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน จากการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย

4. กลุ่มสินค้าไซซ์เล็ก ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ชอบทดลองสิ่งใหม่ ชอบความสะดวกสบาย และส่วนมากมักจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียว หรือมีครอบครัวขนาดเล็ก ดังนั้นสินค้าที่อยู่ในแพ็กเกจที่สามารถใช้หรือรับประทานได้ในครั้งเดียว มีปริมาณที่เหมาะสมสำหรับ 1-2 คน เช่น ครีมซอง หรืออาหารที่อยู่ในซองสำเร็จรูป ก็ถือได้ว่าเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

คุณเบนซ์-ภเดช กันตจินดา กรรมการ บริษัท เนเจอร์ สไปซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย น้ำพริกคุณชาย สินค้าไซส์เล็ก และต่อยอดเอกลักษณ์จากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เล่าว่า เราเป็นบริษัทที่ทำน้ำพริกมากว่า 20 ปี จึงมั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานโรงงานและการผลิต ช่วงเริ่มต้นธุรกิจเราเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า B2B เป็นหลัก ต่อมาปี 2561 บริษัทต้องการเติบโตไปอย่างยั่งยืน จึงมองถึงการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง และได้มีโอกาสเข้าไปปรึกษากับทางเซเว่นเพื่อนำเสนอสินค้า ซึ่งทางเซเว่นก็ได้แนะนำการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ โดยเฉพาะเรื่องของรสชาติที่ต้องอร่อยกลมกล่อม มีอายุการเก็บรักษายาวนาน แพคเกจจิ้งมีขนาดที่เหมาะสม เราจึงดีไซน์ให้มีซิปล็อค เมื่อกินไม่หมดก็สามารถเก็บรักษาได้ง่าย เรามองว่าเซเว่น เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาจำนวนมาก เหมาะต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ

5. กลุ่มสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากกระแสรักษ์โลกที่เติบโตมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมามองสินค้าที่ตอบโจทย์หรือการรีไซเคิล หรือเป็นสินค้าที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

6. กลุ่มสินค้าที่มีนวัตกรรม นวัตกรรมยังคงเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากสร้างความแตกต่างให้กับคู่แข่งในตลาดแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า สร้างความน่าสนใจและดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาซื้อสินค้า ถึงแม้จะเป็นสินค้าพื้นบ้าน ก็มีโอกาสเติบโตและยั่งยืนในอนาคตได้อีกด้วย

7. กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ผู้คนหันมาให้ความใส่ใจกับเรื่องของสุขภาพและการดูแลตัวเองมากขึ้น สังเกตจากการขยายตัวของสินค้าประเภท สินค้าธัญพืช สินค้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพร

คุณหญิง-สมหญิง กรอบเพ็ชร กรรมการบริษัท เบสท์ แอนด์ บิลเลี่ยน บิวตี้ จำกัด เจ้าของแบรนด์ ซิสต้าร์ (SISTAR) สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม เล่าว่า เราทำธุรกิจกับเซเว่นมานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งเราได้พัฒนาแบรนด์สกินแคร์คุณภาพสูงที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใส่ใจความสวยความงามได้ทุกกลุ่ม มีการออกแบบแพคเกจจิ้งที่พกพาสะดวกและราคาที่เข้าถึงง่าย บวกกับสาขาของเซเว่นที่มีมากกว่า 13,000 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น แม้ปัจจุบันทางแบรนด์จะไม่ได้มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนำสินค้าเข้ามาขายในเซเว่น เพราะเราเลือกใช้โรงงาน OEM ที่ได้มาตรฐาน GMP และพัฒนาสินค้าตรงตามกฎเกณฑ์ทุกอย่าง นอกจากนี้ ยังเป็นข้อดีของธุรกิจ SME อย่างเราที่จะช่วยควบคุมต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการให้ความรู้หัวข้อ “การสร้างแบรนด์ด้วยพลังแห่งคอนเทนต์ในปัจจุบัน” โดย คุณเมธปริยา คำนวนวุฒิ นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย, หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยู จำกัด คุณวีระ เจียรนัยพานิชย์ Line Certified Coach 2023 ,กรรมการบริหาร สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย คุณศิริพัฒน์ กล่ำกลิ่น Owner/Managing Director at Nerve Digital Agency และกรรมการบริหาร สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย และ “ขั้นตอนการเลือกสินค้า SME เข้า 7-Eleven” โดย ดร.วรรณวิรัช วิรัชนิภาวรรณ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ซีพี ออลล์ ตัวแทนศูนย์ 7 สนับสนุน SME พร้อมการออกบูธจาก SME ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ

สำหรับผู้ที่สนใจนำสินค้าวางขายใน 7-Eleven สามารถนำสินค้าของคุณเข้าไปปรึกษาและขอคำแนะนำได้ที่ ศูนย์ 7-Eleven สนับสนุน SME 

www.7smesupportcenter.com 

Facebook : 7SMECenter

Call : 02-826-7750

TikTok : 7SMECenter

E-mail : [email protected]