ไทยขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกปลากระป๋องเป็นอันดับ 2 ของโลก ในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.2566) คิดเป็นมูลค่า 1,145 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอันดับ 2 ของโลก และอันดับ 1 ของอาเซียน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าปัจจุบันไทยส่งออกปลากระป๋องและแปรรูปเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค. 2566) มีการส่งออกคิดเป็นมูลค่า 1,145.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 39,662 ล้านบาท) เป็นการส่งออกไปตลาดคู่ FTA คิดเป็นมูลค่า 351.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 12,158 ล้านบาท) ขยายตัว 15.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

สำหรับขยายตลาดคู่ FTA พบว่าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ขยายตัว 22.7%, ชิลี ขยายตัว 96.7%, เปรู ขยายตัว 183.1%, จีน ขยายตัว 25.7%, กัมพูชา ขยายตัว 11.9% และฟิลิปปินส์ ขยายตัว 138.1%

อีกทั้ง เมื่อลงรายละเอียดสินค้าปลากระป๋องและแปรรูปไปยังตลาดคู้ค้า FTA พบว่าปลาทูน่ากระป๋อง เพิ่ม 17.2% คิดเป็น 51.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของตลาดคู่ค้า FTA นอกจากนี้ ปลาแปรรูป เช่น ปลาทูน่าที่ทำให้สุกแล้ว, คาร์เวียร์, ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน และปลาแมคเคอเรล พบว่าเพิ่มขึ้น 18.2% สัดส่วน 32.6% ปลาซาร์ดีนกระป๋อง เพิ่ม 8.4% สัดส่วน 4.6% และปลากระป๋องอื่นๆ เพิ่ม 6.2% สัดส่วน 11.1%

นางอรมน กล่าวทิ้งท้ายว่าไทยมีศักยภาพในการผลิตปลากระป๋องและแปรรูปเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่มีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น รวมถึงไทยมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกสินค้าปลากระป๋องและแปรรูปของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง