'รถ' ก็เหมือน 'ลูก' สำหรับคนที่รักรถ โดยเฉพาะคุณสุภาพบุรุษ เราเข้าใจดี แน่นอนว่า คนที่รักรถต้องมีพฤติกรรมดูแลทะนุถนอมการใช้รถเป็นเศษ ซึ่งพอใช้รถไปนาน ๆ เจอแดดฝุ่นฝน รถเปรอะเปื้อนมีคราบหิน ดิน ทราย เกาะแน่นสกปรก ก็อยากจะล้างให้สะอาดให้หมือนใหม่ในทุก ๆ วัน แต่ไอ้เราก็ไม่มีเวลาเสียด้วยสิ แถมไม่มีอุปกรณ์ล้างรถที่ครบชุดได้มาตรฐาน และยังขี้เกียจอีกด้วย

เพราะฉะนั้น การมองหาตัวช่วย หรือ ร้านคาร์แคร์ ที่ดีได้มาตฐาน และถูกใจ เพื่อมาช่วยดูแลรักษาสภาพรถของคุณให้เหมือนใหม่ตลอดเวลา และยืดอายุการใช้งานไปนาน ๆ นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ปัจจุบัน มีร้านคาร์แคร์ เปิดให้บริการมากมาย กระจายอยู่ทุก ๆ Location ทั้ง Shop Stand Alone , ในห้างสรรพสินค้า , ในปั๊มน้ำมัน , ทุกตรอกซอกซอย โดยรูปแบบขนาดของร้าน พื้นที่ทำคาร์แคร์ อุปกรณ์ล้างรถ/บำรุงรักษารถ, ราคา, รวมถึงจำนวนพนักงานที่ให้บริการก็ล้วนแตกต่างกันออกไป

สำหรับเพื่อน ๆ ท่านใด ที่ยังไม่มีร้านประจำในการนำรถเข้าไปล้าง แอดมินอยากให้ลองพิจารณาแบรนด์ร้านคาร์แคร์ที่หยิบยกมานำเสนอในครั้งนี้ โดยแต่ละแบรนด์มีชื่อเสียง ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีเปิดให้บริการหลายสาขา และเป็นมากกว่า คาร์แคร์ล้างรถ เพื่อประกอบการตัดสินใจ เพื่อที่คุณจะได้มั่นใจขับรถคู่ใจเข้าไปใช้บริการได้อย่างมั่นใจ คุ้มค่าคุ้มราคา

เมจิก บาย วิซาร์ด (Magic By Wizard)

บริการเด่นของทางร้านสำหรับลูกค้าทั่วไปที่เข้าใช้บริการ

• ล้างรถด้วยหุ่นยนต์ (ระบบแรงดันน้ำไร้รอย)
• ขัดเคลือบเบาะหนัง
• ล้างแอร์ด้วยกล้อง Micro Cam
• เคลือบแก้วแท้ Crystal Guard by Wizard ที่จะทำให้รถของคุณออกไปท้าความใหม่ได้ไม่แพ้รถป้ายแดง
• ซ่อมช่วงล่างระบบถุงลม ครบทุกยี่ห้อแห่งเดียวในประเทศ

รูปแบบแฟรนไชส์

สำหรับนักลงทุนและผู้สนใจธุรกิจคาร์แคร์
• สาขาแฟรนไชส์ : กว่า 50 สาขาทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
• งบการลงทุนแฟรนไชส์ : 1,000,000 บาทขึ้นไป
• รูปแบบการลงทุน : ค่าแฟรนไชส์ 150,000 บาท โดยรวมทุกอย่างเงิน ลงทุนประมาณ 1,000,000 บาท ขึ้นไป

สิ่งที่จะได้รับเบื้องต้น :
1.) อาคารล้างรถ + เช็ดรถ, อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ครบครัน , ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์
2.) สิทธิในการใช้ชื่อ ป้าย รูปแบบโลโก้ของ Magic By Wizard
3.) การจัดอบรมจากเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญ
4.) การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และผ่านทาง www.wizardautocare.com

สมายคาร์ บายโปรคลีน (Smile Car by Proclean)

บริการเด่นของทางร้านสำหรับลูกค้าทั่วไปที่เข้าใช้บริการ

• ให้บริการดูแล บำรุงรักษารถยนต์ ได้แก่ หมวดการทำความสะอาด ทำความสะอาดรถ ทำความสะอาดภายใน ล้างห้องเครื่องด้วยน้ำยาพิเศษ ล้างอัดฉีด
• หมวดคืนความสดใส เคลือบสีรถยนต์ ขัดสี ซักเบาะพรม ขัดเบาะหนัง
• หมวดบำรุงรักษาที่เป็น Quick Service เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พร้อมไส้กรอง และหล่อลื่นต่าง ๆ
• ตรวจเช็คเบื้องต้น ล้าง/เติมหม้อน้ำ น้ำยาหล่อเย็น ใบปัดน้ำฝน แบตเตอรี่ ชนิด Maintenance Free

รูปแบบแฟรนไชส์ สำหรับนักลงทุนและผู้สนใจธุรกิจคาร์แคร์

• สาขาแฟรนไชส์ : กว่า 40 สาขาทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
• งบการลงทุนแฟรนไชส์ : 700,000 – 1,600,000 บาท
• รูปแบบการลงทุน : งบประมาณในการลงทุนรวมทุกอย่าง ประมาณ 700,000 – 1,600,000 บาท

สิ่งที่จะได้รับเบื้องต้น

1.) สิทธิในการใช้ชื่อ รูปแบบ โลโก้ ของ “Smile Car byproclean”
2.) สิทธิในการสั่งซื้อสินค้า วัตถุดิบ จากบริษัทฯ
3.) บริการให้คำปรึกษาออกแบบ ตกแต่งร้านให้ได้ตามมาตรฐานของบริษัท
4.) จัดฝึกอบรมพนักงานของแฟรนไชส์ซี่
5.) ให้ยืมเอกสารคู่มือการบริหารหน้าร้าน สูตร (Recipe) ต้นทุนต่าง และโปรแกรมการบริการจัดการทั้งหมด

โมลีแคร์ บาย คาร์แลค68 (Moly care by carlack68)

บริการเด่นของทางร้าน สำหรับลูกค้าทั่วไปที่เข้าใช้บริการ

• เคลือบแก้ว, เคลือบเซรามิก
• ขัดเคลือบสี 7 ขั้นตอน, ขัดเคลือบสี 15 ขั้นตอน
• ขัดเคลือบสี Proshine, ขัดชักเงาสี
• เคลือบสี, เคลือบกระจก, เคลือบเงาหนัง
• ลอกละอองสี, ลอกคราบยางมะตอย , ลอกคราบปูน
• ฟอกเบาะ-พรม, ถอด-ประกอบ เบาะ พรม, อบโอโซน
• ขัดโคมไฟหน้า, ขัดคราบน้ำบนกระจก, ขัดล้อแม็กซ์
• ล้างเคลือบเงาห้องเครื่อง, ล้างสี -ดูดฝุ่น -อัดฉีดช่วงล่าง
• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง, เปลี่ยนถ่ายน้ำหม้อน้ำ
• ผลิตภัณฑ์น้ำยา #CarLack68
• ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง สารเพิ่มประสิทธิภาพรถยนต์

รูปแบบแฟรนไชส์สำหรับนักลงทุนและผู้สนใจธุรกิจคาร์แคร์

• สาขาแฟรนไชส์ : กว่า 60 สาขาทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และขยายไปต่างประเทศอีกด้วย
• งบการลงทุนแฟรนไชส์ : 1.8 – 2.2 ล้านบาท

รูปแบบการลงทุน :

1.Supporterใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาทขึ้นไป
2.Dealerใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 200,000 – 1,000,000 บาท
3.Franchise ใช้เงินลงทุนประมาณ1.8 – 2.2 ล้านบาท

สิ่งที่จะได้รับเบื้องต้น
1.) สิทธิในการใช้เครื่องหมาย โมลีแคร์และคาร์แลค เพื่อส่งเสริมภาพลักษณที่ดี
2.) สิทธิในการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษ
3.) สิทธิในการใช้รูปแบบร้านและตกแต่งออกแบบร้านฟรี
4.) มีการจัดอบรมฟรีตลอดอายุสัญญา
5.) สิทธิในการใช้ package การบริการต่างๆที่กำหนดไว้

จะสังเกตได้ว่า รูปแบบบริการของคาร์แคร์ แต่ละแบรนด์มีความคล้ายคลึงใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเจ้าของรถในการตัดสินใจเลือกใช้บริการแต่ละแบรนด์ โดยหัวใจสำคัญในการให้บริการในธุรกิจนี้หลัก ๆ คือ..

• บริการล้างรถ/ห้องเครื่อง/แอร์ ด้วยอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์น้ำยาหรือโฟมที่ได้คุณภาพ
• บริการซักพรม ขัดเคลือบเบาะ
• บริการขัดเคลือบสีรถยนต์แบบครบวงจร
• บริการซ่อมบำรุงช่วงล่าง/เปลี่ยนอะไหล่

ลงทุนกับแฟรนไชส์ = ซื้อความสำเร็จไปแล้ว 50%

ในส่วนของการลงทุนแฟรนไชส์ จะสังเกตได้ว่า งบประมาณการลงทุนค่อนข้างสูง เฉลี่ย 1-2 ล้านบาท หรือบางแบรนด์เฉียดล้าน เพราะมีเรื่องของสิทธิ์ค่าดำเนินการหลายอย่างที่แฟรนไชส์ซอร์ (Franchise Sor) ต้องวางระบบพร้อมกับส่งมอบ / อบรมให้กับผู้ลงทุนแฟรนไชส์ (Franchisee) ทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ในการล้าง/บำรุงรักษารถ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์คุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศแทบทั้งสิ้น

โดยการลงทุนซื้อแฟรนไชส์คาร์แคร์มาบริหาร ถือเป็นวิธีลัดที่คุณสามารถเริ่มต้นบริหารธุรกิจได้ทันที เพราะซื้อความสำเร็จของแบรนด์ที่เจ้าของเขาคิดค้นพัฒนา ลองผิดลองถูกจนกระทั่งธุรกิจมีฐานรากที่มั่นคง มีฐานลูกค้าที่รู้จักและเชื่อมั่นมากพอ ดีกว่า การเริ่มต้นทำใหม่เองทุกอย่าง
อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่เงินในกระเป๋ามีไม่มากพอ แต่มีความชื่นชอบในธุรกิจคาร์แคร์ ฝันอยากจะเป็นเจ้าของกิจการ ทำแบรนด์เล็ก ๆ ของตัวเอง ก็สามารถทำได้ ซึ่งแอดมินมีวิธีการเตรียมความพร้อม เริ่มต้นธุรกิจคาร์แคร์ ต้องทำอย่างไรบ้าง นำมาฝากท่านที่สนใจอยากสร้างแบรนด์คาร์แคร์ของตัวเอง ลองพิจารณาว่า คุณมีคุณสมบัติและความพร้อมมากแค่ไหน ก่อนตัดสินใจลงทุน

เริ่มต้นธุรกิจคาร์แคร์ อยากสร้างแบรนด์เอง เตรียมตัวอย่างไร ?

• ดูเงินในกระเป๋า การทำคาร์แคร์มีแต่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น ค่าเช่าที่ทำคาร์แคร์, ค่าน้ำค่าไฟ, ค่าจ้างพนักงานล้าง, ค่าวัสดุสิ้นเปลืองอื่น ๆ ต้องเผื่อเป็นทุนสำรองไว้ฉุกเฉินด้วย

• หาทำเลที่ตั้งของร้านคาร์แคร์ที่จะเปิด ว่าเหมาะสมที่จะทำ และมีรถสัญจรไปมาพลุกพล่านหรือไม่ ตลอดจนต้องมีที่จอดรถสะดวกและเพียงต่อการให้บริการด้วย

• สำรวจคู่แข่ง หากในพื้นที่แถวนั้นที่คุณจะเล็งเปิด มีคาร์แคร์เจ้าใหญ่หรือมีหลายร้าน ก็ควรพิจารณา ประเมินศักยภาพตัวคุณเองดูดี ๆ ว่า สามารถแชร์ลูกค้าหรือส่วนแบ่งการตลาดมาได้มากน้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้ประสบสภาวะขาดทุน

• เครื่องมือ อุปกรณ์ ผบิตภัณฑ์บำรุงรักษารถต้องพร้อม ต้องได้มาตรฐานสากล ไม่ลดต้นทุนซื้อของถูกมาใช้บริการรถลูกค้า เพราะทุกคนก็รักรถของตัวเอง หากคุณทำให้รถลูกค้าเสียหาย อันเนื่องมาจากอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ คงเป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจและเสื่อมเสียชื่อเสียงอีกด้วย

• บริการประทับใจ โดยการตั้งราคา การให้บริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมาล้างรถกับคุณแล้วคุ้มค่า ซึ่งคุณต้องมีกลยุทธ์หรือวิธีการมัดใจลูกค้า ดึงดูดให้กลับมาใช้บริการกับคุณในครั้งต่อไปให้ได้