น้ำพริก คือ อีกหนึ่งเครื่องจิ้มที่ทำรายได้ให้กับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยอย่างมหาศาล เมนูน้ำพริกถ้วยเล็ก ๆ เพียงถ้วยเดียว สามารถชูรสหรือเพิ่มอรรถรสการกินคู่กับสำรับอาหาร กับข้าวกับปลาต่าง ๆ ให้อร่อยมีรสชาติดียิ่งขึ้น คนไทยสมัยก่อน หรือแม้แต่สมัยนี้ มีน้ำพริกถ้วยเดียว กับผักสด หรือผักลวก ก็สามารถคลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ ทานได้

ปัจจุบัน น้ำพริก ถูกแปรสภาพ เรียกว่า พัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัย พกพาสะดวก และเข้าถึงทุกกลุ่มผู้บริโภคทมากขึ้น จากเดิมภาพลักษณ์ น้ำพริก จะถูกวางขายตามแผงร้านค้าในตลาดสด หรือร้านโชห่วยเป็นหลัก ยางวงมัดถุง ชั่งขายเป็นขีด ๆ หรือตามน้ำหนักแล้วแต่ตามความต้องการของคนซื้อและคนขาย แม้ปัจจุบัน ยังมีแผงร้านค้าที่จำหน่ายน้ำพริกมัดถุงอยู่ แต่เจ้าของร้านหรือผู้ประกอบการหลายราย ที่ได้พัฒนาตัวสินค้าและแพ็กเกจจิ้งให้ดูร่วมสมัยอีกด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ เราสามารถหาซื้อน้ำพริกสำเร็จรูปพร้อมทานได้แบบง่ายมาก ๆ ยกตัวอย่าง ในร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชม.เมื่อเดินเข้าไปในร้านจะเจอน้ำพริกสารพัดให้เลือกซื้อ เป็นถ้วย, ตลับ หรือกระปุกเล็ก ๆ 2-3 คนทานกำลังพอดี และราคาไม่แพง ขายปลีกเริ่มต้น 7-15 บาท/กระปุกเท่านั้น แต่รับประทานได้หลายมื้อ จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซื้อง่ายขายคล่อง

ในมุมของการลงทุนจึงไม่แปลกใจเลยว่า มีนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการหลายรายที่กระโดดเข้ามาร่วมวงในอุตสาหกรรมหรือ ธุรกิจน้ำพริก ผลิตและจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกมากมายหลายแบรนด์ ดังที่เราเห็นทุกวันนี้

น้ำพริกปลาร้า, น้ำพริกตาแดง, น้ำพริกเห็ดหอม, น้ำพริกปลาดุกฟู, น้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกปลาทู, น้ำพริกนรก, น้ำพริกกุ้งสวรรค์, น้ำพริกปลาย่าง ฯลฯ เอ่ยชื่อแค่นี้ เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งจะสังเกตเห็นมีวางจำหน่ายค่อนข้างมาก เช่น ในร้านสะดวกซื้อ , ซูเเปอร์มาร์เก็ตชุมชนต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ เช่น Lotus’s go fresh หรือ BiG C เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ จึงชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าตลาดน้ำพริกจะเติบโตหรือจะตก หรือพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นไร แต่น้ำพริกไทยก็ยังคงเสน่ห์ไม่เคยเปลี่ยน หรือจะยิ่งเข้าถึงผู้บริโภคในยุคสมัยนี้ได้อย่างกลมกลืนมากขึ้นอีกด้วย

โดยเฉพาะการบริโภคน้ำพริกภายในประเทศไทย ในทุก ๆ ปี เฉลี่ยต้องมีแตะ ๆ 2-3 พันล้านบาท ยังไม่นับรวมตลาดน้ำพริกที่ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะ “ประเทศจีน” ที่แบรนด์น้ำพริกของไทยเรา ภาพรวมส่งออกเทียบเท่ามูลค่าราวกว่า 38,000 ล้านหยวน หรือกว่า 172,000 ล้านบาท โดยเป็นตัวเลขช่วงที่เกิดวิกฤคโควิด-19 เมื่อประมาณปี พ.ศ.2562-2563 เสียด้วยซ้ำ

คราวนี้ เราลองมาดูกันสิว่า มีน้ำพริกไทยยี่ห้อใดบ้าง ที่วางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านสะดวกซื้อทันสมัย ที่มียอดขายดี และคุ้นตาคุ้นปากคนไทย และเพื่อน ๆ ซื้อบริโภคหรือนำไปปรุงอาหารเป็นประจำกันบ้าง

บริษัท อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมือง จำกัด

ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565

รายได้รวม 3,505.2 ล้านบาท

กำไร 1,163.9 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์น้ำพริก ตราพันท้ายนรสิงห์ สินค้ายอดนิยม ได้แก่ พันท้ายนรสิงห์ น้ำพริกนรก, พันท้ายนรสิงห์ น้ำพริกตาแดง, พันท้ายนรสิงห์ น้ำพริกเผาเผ็ดกลาง, พันท้ายนรสิงห์ น้ำพริกเผาทำต้มยำ ฯลฯ
มีจำหน่าย : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , ห้างค้าส่ง, โมเดิร์นเทรด(เทสโก้ โลตัส , บิ๊กซี) , ร้านสะดวกซื้อ

บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด

ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565

รายได้รวม 1,670.1 ล้านบาท

กำไร 106.8 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์น้ำพริก ตราแม่ประนอม สินค้ายอดนิยม ได้แก่ น้ำพริกเผาไทย , น้ำพริกมันกุ้ง, น้ำพริกตาแดง ฯลฯ

มีจำหน่าย : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , ห้างค้าส่ง, โมเดิร์นเทรด(เทสโก้ โลตัส , บิ๊กซี) , ร้านสะดวกซื้อ

บริษัท โกลโบ ฟู้ดส์ จำกัด

ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565

รายได้รวม 1,744.8 ล้านบาท

กำไร 100.6 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์น้ำพริก ตราโลโบ (Lobo) สินค้ายอดนิยม ได้แก่ น้ำพริกแกงเผ็ด, น้ำพริกแกงเขียวหวาน, น้ำพริกแกงเหลือง, น้ำพริกแกงพะแนง, น้ำพริกแกงกะหรี่, น้ำพริกแกงป่า, น้ำพริกแกงมัสมั่น, น้ำพริกแกงส้ม ฯลฯ

มีจำหน่าย : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , ห้างค้าส่ง, โมเดิร์นเทรด(เทสโก้ โลตัส , บิ๊กซี) , ร้านสะดวกซื้อ

บริษัท พี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด

ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565

รายได้รวม 99 ล้านบาท

กำไร 1.6 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์น้ำพริก ตรารุ่งเจริญ สินค้ายอดนิยม ได้แก่ น้ำพริกนรกแมงดา, น้ำพริกปลาย่าง, น้ำพริกกุ้งสวรรค์, น้ำพริกตาแดง, น้ำพริกนรก, น้ำพริกปลาดุกฟู ฯลฯ

มีจำหน่าย : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , ห้างค้าส่ง, โมเดิร์นเทรด(เทสโก้ โลตัส , บิ๊กซี) , ร้านสะดวกซื้อ

บริษัท จ่าวิรัช ฟู้ด จำกัด

ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565

รายได้รวม 33.8 ล้านบาท

กำไร 1.5 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์น้ำพริก ตราจ่าวิรัช (JAWIRAT FOOD) สินค้ายอดนิยม ได้แก่ น้ำพริกนรกปลาร้า, น้ำพริกนรกปลาย่าง, น้ำพริกหมูฝอย, น้ำพริกแมงดาปลาย่าง, น้ำพริกปลาดุกฟู, น้ำพริกนรกแมงดา ฯลฯ

มีจำหน่าย : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , ห้างค้าส่ง, โมเดิร์นเทรด(เทสโก้ โลตัส , บิ๊กซี) , ร้านสะดวกซื้อ

ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำพริกแบรนด์ของคนไทยอีกมากมาย ที่ปัจจุบันผู้ประกอบการแต่ละรายได้ R&D ผลิตภัณฑ์และแพ็กเกจจิ้งให้กับยุคสมัยและพฤติกรรมคนกิน ตลอดจนมีกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการโปรโมท เพื่อขยายฐานลูกค้า เข้าถึงช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในทุก ๆ ช่องทาง ดังจะเห็นผู้ประกอบการธุรกิจหรือโรงงานน้ำพริกของคนไทยที่ดังไกล มีออร์เดอร์ส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก ตามหน้าสื่อต่าง ๆ

ถือได้ว่า อุตสาหกรรมน้ำพริกของไทย ยังมีอนาคตที่สดใส ไร้ความกังวล ประเด็นสำคัญคือ ส่วนแบ่งการตลาดที่คงจะต้องช่วงชิงและแข่งขันกันเองของผู้ประกอบการไทยนี่แหละ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจ ที่ต้องมีการปรับตัว ให้ตอบสนองความพึงพอใจและเทรนด์ของผู้บริโภค

ตัวอย่างง่าย ๆ ที่ผู้ผลิตน้ำพริกสร้างการมีส่วนร่วมและเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้นในยุคนี้ เช่น มีฉลากติดไว้ ระบุถึงระดับความเผ็ดน้อย เผ็ดปานกลาง เผ็ดมาก เป็นต้น ซึ่งแอดมินมองว่า เป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ เพราะบางคนก็ทานเผ็ดได้ไม่มาก แต่ก็อยากทานน้ำพริก ช่วยให้ผู้ซื้อสะดวกในการเลือกตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างคุ้มค่าและตรงใจตนเองที่สุดอีกด้วย
==============================================

ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ: my-best, brandcase, bestreview, pantainorasingTH, MaepranomThailand, namprikmin, LoboFanpage