วันจันทร์, เมษายน 29, 2567

ทำไม? “อิสราเอล” ถึงถูกขนานนามว่าประเทศแห่งสตาร์ทอัพที่ไม่เป็นสองรองใครบนโลกใบนี้

by Anirut.j, 11 ตุลาคม 2566

เมื่อพูดถึงประเทศอิสราเอล คุณนึกถึงอะไร?

แน่นอนว่าเรื่องแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นภาพความขัดแย้งเรื่องดินแดนที่มีกับปาเลสไตน์ที่กินระยะเวลายาวนานมาหลายชั่วอายุคน และไม่มีใครรู้ว่าปัญหานี้จะจบลงเมื่อไหร่ หรือบางคนอาจจะไม่รู้จักอิสราเอลเลยด้วยซ้ำ คงเป็นประเทศที่อยู่ห่างไกล และไม่ค่อยน่าเดินทางไปสักเท่าไหร่

แต่ประเทศที่ถูกมองข้ามนี้ รู้หรือไม่ว่า อิสราเอล ถูกขนานนามเป็นประเทศแห่งสตาร์ทอัพเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมเลยก็ว่าได้

อิสราเอลมีประชากรมากกว่า 9 ล้านคน หากย้อนปูมหลังพบว่าเป็นชาวยิวที่อพยพมาจากยุโรปมาตั้งรกรากในดินแดนแห่งนี้ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องของสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้ง ปลูกได้เฉพาะพืชเกษตรกรรมพื้นฐาน และทรัพยากรมีจำนวนจำกัด

เรื่องนี้ David Ben-Gurion นายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอล ที่มีความสนใจเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมมองว่าการที่ประเทศจะเดินหน้า ก้าวไปสู่อุตสาหกรรมขั้นสูงได้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา รวมถึงหากต้องการอยู่รอดในดินแดนที่ห้อมล้อมไปด้วยศัตรู ประชาชนต้องมีความรู้ มีทักษะในเรื่องของเทคโนโลยี จึงเป็นที่มาของการร่วมตั้งสถาบันเทคโนโลยีแห่งอิสราเอล (The Technian Israel Institute of Technology)

จะเห็นได้ว่า ผู้นำคนแรกของอิสราเอลต้องการให้ประชาชนมีคุณภาพ ทั้งในเรื่องของการศึกษา เทคโนโลยี เนื่องด้วยประชากรที่มีไม่มาก ซึ่งการลงทุนด้วยเงินมหาศาลไปกับงานวิจัย เทคโนโลยี จึงเป็นทางออกที่จะทำให้ประเทศพัฒนา เดินหน้าได้ โดยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ คือพวกเขาสามารถเอาชนะปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด และเป็นผู้นำด้านเกษตรกรรมบนพื้นที่ทะเลทราย

สำหรับเรื่องที่รัฐบาลอิสราเอลลงทุน ให้การสนับสนุนผ่าน Tech Ecosystem รวม 6 ส่วน ด้วยกัน ได้แก่ ภาครัฐฯ, ภาคการศึกษา, สตาร์ทอัพ, การร่วมลงทุน, บริษัทใหญ่ในประเทศ, บริษัทข้ามชาติ ปัจจัยเหล่านี้อิสราเอลกลายเป็นชาติที่มีจำนวนธุรกิจสตาร์ทอัพมากกว่า 8,000 ราย มียูนิคอร์นมากกว่า 30 ตัว

 

อิสราเอล เจ้าพ่อสตาร์ทอัพของโลก

อิสราเอล เจ้าพ่อสตาร์ทอัพของโลก

 

นอกจากนี้ สตาร์ทอัพอิสราเอลยังมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีล้ำลึก โดยธุรกิจเหล่านี้จะทำงานกับเทคโนโลยีที่มีความล้ำหน้าปีหรือหลายทศวรรษ ผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพ

ไม่เพียงเท่านั้น อิสราเอลยังเป็นพื้นที่ของนวัตกรรมในเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์, ฟินเทค และเทคโนโลยีการแพทย์ โดยเฉพาะสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยสามารถปกป้องภัยทางให้กับธุรกิจ และรัฐบาล ซึ่งมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

สำหรับตัวอย่างสตาร์ทอัพอิสราเอลเจ๋ง ๆ ที่จะยกมานำเสนอในบทความนี้ เป็นสตาร์ทอัพด้านการเกษตร คือ บริษัท MetoMotion ผู้คิดค้นหุ่นยนต์ GRoW ผู้ช่วยเก็บมะเขือเทศเกษตรกร แถมยังวิเคราะห์ผลผลิตที่เก็บมาเป็นข้อมูลให้ปลูกวางแผนพัฒนาต่อไป

หรือจะเป็น AlgaHealth โดยเป็นผู้คิดค้น ผลิตอากเสริมสกัดจากสาหร่าย ที่ช่วยลดไขมันในเลือด

เรียกได้ว่าระบบนิเวศสตาร์ทอัพของอิสราเอลเป็นหนึ่งในระบบที่สร้างสรรค์ และพลวัตมากที่สุดในโลก ทำให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนที่มาจากบริษัทข้ามชาติที่มาจากปัจจัยเรื่องผลงานการวิจัย เทคโนโลยีเชิงรุก ที่สนับสนุนต่อธุรกิจสตาร์ทอัพอิสราเอลว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้

ปัจจัยที่ทำให้อิสราเอลก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนสำคัญมาจากรัฐบาลสนับสนุน วางรากฐานต้องการให้ประชากรมีคุณภาพ โดยเน้นเรื่องเทคโนโลยีเป็นหลัก ตั้งแต่การบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียน การลงทุนสนับสนุน ทำให้คนอิสราเอลไม่กลัวที่จะล้มเหลวหากทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เมื่อมีธุรกิจที่แข็งแกร่งจำนวนมากเกิดขึ้น ย่อมส่งผลดีต่ออิสราเอล ผู้คนมีทางเลือก ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน สุดท้ายประโยชน์ก็ตกมาอยู่ที่ประเทศ และประชาชน

อ้างอิง: salika, niayoutubemindthebridgegrow.ridder


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line