วันอังคาร, เมษายน 30, 2567

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

by Smart SME, 12 ตุลาคม 2566

ไตรมาสสุดท้ายของทุก ๆ ปี ถือเป็นช่วง High Season ฤดูท่องเที่ยว ที่คนไทยต่างเฝ้ารอ ไหนจะลมหนาวกำลังมา อากาศชิลล์ ๆ ไหนจะวันหยุดเยอะ เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการวางแผนพักผ่อนเดินทางท่องเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ

แน่นอนว่า ธุรกิจขนส่ง (Transport) ราคาตั๋วเดินทางของระบบขนส่งต่าง ๆ ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางราง ทางน้ำ ย่อมมีราคาที่สูงขึ้นตาม นักท่องเที่ยวหลายคน จึงหันมาวางแผนจองตั๋วและที่พักตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ High Season ล่วงหน้าหลายเดือน เพื่อเซฟค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ไว้กินไว้เที่ยวได้อย่างจุใจ

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้พัฒนาระบบขนส่งในทุก ๆ มิติรอบด้าน จะเดินทางไปไหนภายในประเทศก็สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก เพราะมีทางเลือกในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสมัยนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเดินทางโดยสายการบินดูจะเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ เหตุเพราะ ช่วยประหยัดเวลา, ราคาตั๋วสายการบิน Low Cost ราคาไม่สูงนัก (ถ้าไม่ใช่ช่วง High Season) เมื่อเปรียบเทียบกับ ขนส่งมวลชนด้วยรถไฟทางราง หรือทางบก คือ รถตู้โดยสาร หรือรถทัวร์ ที่ราคาก็พอ ๆ กัน

อีกทั้ง ข้อเสียของขนส่งทางบกและทางราง เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางโดยเครื่องบิน ต้องยอมรับว่า ใช้เวลานานกว่ามาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่า จะมีแต่ข้อเสีย เพราะข้อดีของการเดินทางกลุ่มขนส่งทางบกนี้ก็มีอยู่นะ !

 


จุดเด่นของการใช้บริการ “รถทัวร์โดยสาร”

• มีสถานีจุดรับ/ส่ง เกือบทุกจังหวัด ซึ่งมากกว่าสนามบินซึ่งมีบางจังหวัด

• กฎระเบียบน้อยกว่า เช่น ไม่จำกัดน้ำหนักสัมภาระ และสิ่งของในการเดินทาง

• รับ/ส่งผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยว จอดถึงพื้นที่ในท้องถิ่น ใกล้บ้านหรือจุดหมายปลายทาง เรียกว่า ล้อหมุนไปทุกที่ที่มีถนน

 

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด อยากจะฉายภาพให้ผู้อ่านเห็นว่า การแข่งขันด้านธุรกิจขนส่ง สูงมากไม่แพ้ธุรกิจประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะกับ "รถทัวร์โดยสาร" ที่ยุคสมัยนี้ อาจจะมองดูเงียบเหงา มีลูกค้าใช้บริการลดลง ไม่เท่ากับเครื่องบิน หรือรถตู้สาธารณะที่คล่องตัวกว่า ใช้เวลาเดินทางรวดเร็วกว่า และราคาตั๋วโดยสารก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่

แม้จะดูเหมือนว่า "รถทัวร์" หรือระบบเดินรถขนส่งมวลชนทางบก อาจดูเป็น "มวยรอง" แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศไทย มีประชากรที่มีรายได้ปานกลาง ลงไปถึงผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากกว่า เพราะฉะนั้น การเลือกใช้บริการรถทัวร์ ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่คนไทยส่วนใหญ่พึงพอใจ และพร้อมที่จะใช้บริการเดินทางท่องเที่ยวไปในจังหวัดต่าง ๆ ทั้งในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือฤดูกาลท่องเที่ยว และเดินทางไป-กลับกรุงเทพฯ - ต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำตลอดทั้งปี

 

ซึ่งจากข้อมูลขนส่งมวลชน มีผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งทางบก ช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ในแต่ละปี ได้แก่ เทศกาลปีใหม่ , เทศกาลสงกรานต์ ฯลฯ เฉลี่ยประมาณการ ดังนี้

• จำนวนผู้ใช้บริการรถทัวร์โดยสาร ในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ เฉลี่ย 25,000-35,000 คน (ทั้งขาเข้า และขาออกกรุงเทพฯ)

• ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยจำนวน 3,000 เที่ยว (ทั้งเที่ยวไป และ เที่ยวกลับกรุงเทพฯ)


กรณีศึกษา "ธุรกิจรถทัวร์" ว่า ปัจจุบัน มีสภาพคล่อง หรือยอดจองตั๋วจากนักท่องเที่ยว นักเดินทาง ที่อุดหนุนการเดินทางขนส่ง ว่า คึกคัก หรือซบเซา มากน้อยเพียงใด โดยถ้าเปรียบมวยคู่เอก คงต้องยกเคสของ "นครชัยแอร์ และ “สมบัติทัวร์" ให้เพื่อน ๆ ได้เห็นภาพร่วมกัน

 

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

 

บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด

ผลประกอบการ
ปี 2565
รายได้ : 2,130.2 ลบ.
กำไร : 570.2 ลบ.

ปีที่เริ่มดำเนินกิจการ : 19 มี.ค.2529 (37 ปี)

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

 

จุดเด่น :

1. รถบริการระดับ NCA First Class เน้นเบาะที่นั่งแบบแคปซูล ระบบนวดไฟฟ้า มีจอโทรทัศน์ส่วนตัว เสิร์ฟอาหารว่างและเครื่องดื่มที่แตกต่างไปจากรถนอนปกติ

2. พัฒนารถโดยสารที่ใหญ่และหรูขึ้น ขนาด 32 ที่นั่ง ติดตั้งเบาะที่นั่งเป็นแบบแคปซูล ระบบนวดไฟฟ้า พร้อมจอโทรทัศน์ส่วนตัว ขนาด 7 นิ้ว หลังเบาะโดยสารทุกที่นั่ง วิ่งปนกับรถนอนปกติเพื่อคืนกำไรให้กับผู้โดยสาร

3. ปี พ.ศ.2560 นครชัยแอร์ เปิดเส้นทางใหม่ เขมราฐ และ ป่าติ้ว และเข้าเจรจากับเจ้าของสัมปทานที่เสนอขาย เพื่อเปิดเส้นทางใหม่อีกหลายเส้นทาง ภายใต้งบประมาณลงทุนราว 200 ล้านบาท เพื่อซื้อรถบัสอีกกว่า 30 คัน รองรับการขยายตัวของธุรกิจ

4. ปัจจุบัน นครชัยแอร์ มีรถให้บริการจำนวนกว่า 386 คัน ใน 37 เส้นทาง ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก

 

 

 

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

บริษัท เทพสมบัติ จำกัด (สมบัติทัวร์)

ผลประกอบการ
ปี 2565
รายได้ : 441 ลบ.
ขาดทุน : -19.9 ลบ.

ปีที่เริ่มดำเนินกิจการ : 14 พ.ย.2521 (44 ปี)

 

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

"ธุรกิจรถทัวร์" ยังไหวไหม ? เมื่อขนส่งมีตัวเลือกเยอะ

จุดเด่น :

1. ปัจจุบัน สมบัติทัวร์ มีเส้นทางเดินรถทั้งหมดกว่า 30 เส้นทาง ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงเส้นทางเดินรถระหว่างจังหวัด เช่น เชียงราย-นครพนม เชียงราย-ขอนแก่น เชียงใหม่-ขอนแก่น ภูเก็ต-ขอนแก่น โดยมีรถให้บริการทั้งหมดกว่า 300 คัน

2. นอกจากนี้ สมบัติทัวร์ ยังมีแบรนด์รถทัวร์ในเครืออีก 4 แบรนด์ คือ 1.) สมบัติทัวร์, 2.) บางกอกบัสไลน์, 3.) แอร์อุบล และ 4.) เวียงพิงค์บัส

3. เวียงพิงค์บัส เป็น รถ VIP.พิเศษ ความยาว 15 เมตร ถือ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมา โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น เช่น เบาะเดี่ยวพร้อมนวดไฟฟ้า ทีวีหลังเบาะส่วนตัว และสามารถชาร์จอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารแบบ USB ได้ รวมถึงบริการอาหารแบบบุฟเฟ่ต์

4. สมบัติทัวร์ มุ่งเน้นบริการเพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารตั้งแต่ขั้นตอนสั่งซื้อตั๋วโดยสาร เช่น มีบริการจำหน่ายตั๋วโดยสาร เป็นที่พักผ่อนก่อนการเดินทาง และเป็นที่นอนเมื่อมาถึงช่วงเช้า รวมถึงมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ ซึ่งจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันมีศูนย์บริการอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ

5. พัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทฯ เน้นความมีมาตรฐาน ปลอดภัย การบริการ รวมถึงมีการพัฒนาเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นเส้นทางแรก ๆ ของสมบัติทัวร์

 

 

เสน่ห์ของการนั่ง "รถทัวร์" Never say die !!

• รถทัวร์ แม้จะใช้ระยะเวลาเดินทางยาวนาน แต่ไม่ว่าจะเดินทางวันไหน เวลาใด ค่าโดยสารก็คงที่ เพราะถูกควบคุมโดยกรมการขนส่งทางบก

• จองตั๋วสะดวกสบาย ผ่านหลายช่องทางออนไลน์ อีกทั้ง ยังขยายช่องทางการจองตั๋วโดยสาร เดี๋ยวนี้แค่ โทร.จอง แล้วรับรหัสไปจ่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ ตู้เอทีเอ็ม ที่เหลือ รอวันเดินทาง และไปขึ้นรถที่สถานีเดินรถได้เลย

• Facilities สิ้งอำนวยความสะดวกไม่ได้ด้อยไปกว่าสายการบิน โดยผู้ประกอบการรถทัวร์แบรนด์ชั้นนำ ได้เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ตั้งแต่เบาะโดยสารที่มีเบาะนวดไฟฟ้า (นวดแบบเบา ๆ) แจกน้ำดื่ม ขนม อาหารกล่อง ฯลฯ รวมทั้งความบันเทิง อย่างจอโทรทัศน์ส่วนตัว ที่มีภาพยนตร์และเพลงให้รับชม

• น้ำจิตน้ำใจ เป็นมากกว่า ธุรกิจรถทัวร์ ซึ่งความเป็นคนไทยมีให้เห็นทุกที่ ความเป็นพี่เป็นน้อง โดยญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน คนบ้านเดียวกันที่หลาย ๆ คนทำงานในบริษัทรถทัวร์ เมื่อมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการ เป็นคนบ้านเดียวกัน ก็จะช่วยเหลือ แนะนำ บริการอย่างดี ประดุจครอบครัวที่อยู่บ้านเดียวกันจริง ๆ

 


เมื่อประมวลจากข้อมูลดูแล้ว แอดมิน ขอฟันธง ! ว่า ธุรกิจรถทัวร์ ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางสูญหาย หมายถึง (ธุรกิจการให้บริการนี้นะ) เพราะทุกคนยังต้องเดินทางทุกวันทุกคืน ตลอดทั้งปี ยังมีพี่น้องคนไทยอีกหลายคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว, ไม่ได้มีฐานะในระดับที่ดีนัก และรถทัวร์ยังเข้าถึงพื้นที่ชุมชนทุกจังหวัด มากกว่าเครื่องบิน รวมทั้งการขนสัมภาระต่าง ๆ ก็ไม่จำกัดน้ำหนักหรือจำนวน

แม้ว่า การเดินทางโดยรถทัวร์ จะใช้เวลานานกว่าขนส่งอื่น ๆ แต่เชื่อว่า ผู้โดยสารแต่ละคน ได้วางแผนการเดินทางเผื่อเวลาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หรือบางคนมองว่า รถทัวร์อาจจะมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ แต่อุบัติเหตุก็สามารถเกิดได้กับทุกคนและทุกขณะ ไม่เลือกบุคคล ไม่เลือกเวลาสถานที่ และสามารถเกิดได้กับทุกประเภทระบบขนส่งเช่นกัน

แต่สำหรับผู้ประกอบการ แน่นอนว่า ต้องไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เช่น การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ระบบปรับอากาศ ความสะอาด อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งอำนวยความสะดวก

รวมไปถึง ความพร้อมการให้บริการ มาตรฐานการทำงาน และการให้บริการของพนักงานคนขับ และ Bus Hostess (พนักงานต้อนรับบนรถทัวร์) เพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสารทุกครั้งที่เลือกใช้บริการรถทัวร์ของคุณ ให้รู้สึกประทับใจ พึงพอใจมากที่สุด และกลับมาใช้บริการซ้ำในครั้งต่อ ๆ ไป


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line