วันเสาร์, เมษายน 27, 2567

วิธีเพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า ! ทำเองได้ ง่ายนิดเดียว

by Smart SME, 16 ตุลาคม 2566

สำหรับพ่อค้าแม่ค้า เจ้าของกิจการ ใคร ๆ ก็อยากมียอดขายสินค้าและบริการที่ปัง ๆ ! ทุกวัน โดยกลยุทธ์หรือวิธีการทำการตลาดด้วยวิธีการต่าง ๆ ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อดึงดูดลูกค้า กระตุ้นยอดขาย ซึ่งเชื่อว่า ผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละท่านได้ทำกันอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว

แต่ถ้าจะให้บอกว่า มีเทคนิคการตลาดเพิ่มยอดขายแบบง่าย ๆ อะไรบ้าง ? ที่ไม่ต้องอ้างอิงทฤษฎี ไม่ต้องทุ่มงบลงโฆษณาแพง ๆ แต่ใช้การสังเกตพฤติกรรมลูกค้า การเก็บข้อมูล แล้วนำมาหาวิธีการกระตุ้นยอดขายที่นิยมใช้กันมากที่สุด เป็นพื้นฐานสุด และประหยัดงบโฆษณาที่สุด

โดยสรุปได้จาก 4 หัวข้อดังนี้ ที่ Smart SME ขอนำมาฝากผู้ประกอบการทุกท่าน นำไปต่อยอดเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการในธุรกิจของท่านอย่างเป็นรูปธรรมได้ทันที

 


1. วางแผนทำการตลาดทุกครั้ง

การวางแผน มีพิมพ์เขียวหรือ Road Map ให้เดินไปต่อ แม้จะมีปัญหามีอุปสรรค แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีแผนการอะไรเลย ทั้งนี้ เจ้าของกิจการหลายคน มักจะคิดไปเองว่า ถ้ามีแคมเปญการตลาดที่ดีๆ แล้วยอดขายก็จะตามมาเอง

แต่อันที่จริง การเพิ่มยอดขายที่ได้ผลจริงนั้น ไม่ได้เกิดจากการทำแคมเปญการตลาดเพียงแคมเปญเดียว แต่เกิดจากการวางกลยุทธ์การทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงจากทีมงานคุณในการวางแผนทุกอย่างให้สอดคล้องกับสิ่งที่ที่ธุรกิจต้องการเป็น ทำความเข้าใจในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ค้นหาความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเลือกช่องทางการสื่อสาร หรือแพลตฟอร์มในการทำโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับคุณและต่อลูกค้า

 


2. ไม่ลืมลูกค้าเก่า

ต้องเทคแคร์ดูแลอย่างสม่ำเสมอเหมือนวันแรก.. อย่าลืม ! หรือละเลยลูกค้าเก่า ๆ ของคุณ ที่อุดหนุนสินค้าและบริการของคุณมาตั้งแต่คุณเพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์ หรือเปิดร้านขายตั้งแต่วันแรก ลูกค้าเหล่านี้ คือ ลูกค้าที่เป็น Organic ไม่ได้เข้ามาซื้อสินค้าและบริการของคุณเพียงเพราะตามกระแสหรือใครบอกมาแน่นอน

แต่ลูกค้าเก่าเหล่านี้ เขาชื่นชอบสินค้าหรือบริการคุณจริง ๆ หรือ อยากทดลองเป็นคนแรก ๆ ซึ่งหากของดีมีคุณภาพ ราคาและบริการประทับใจ ลูกค้าเก่านี้แหละ ที่จะจงรักภักดีและเป็นเหมือน Back Up ทำให้ธุรกิจของคุณยังเดินต่อไปได้ ด้วยพลังการสนับสนุนของลูกค้าในยุคแรก ๆ

 


3. ปากต่อปาก คลาสสิค แต่ได้ผลทุกครั้ง

การตลาดแบบ Word of Mouth คือ พลังการตลาดแบบดั้งเดิมที่ประหยัดสุด แทบไม่ต้องเสียต้นทุนโฆษณาอะไร เมื่อผู้ใช้สินค้าหรือบริการเป็นผู้บอกต่อจะส่งผลดีต่อ brand image เป็นอย่างมาก คนที่กำลังตัดสินใจซื้อจะรู้สึกอยากจะซื้อมากกว่าการได้พบเห็นจาก ads เพราะปากต่อปาก มักจะเป็นการพูดคุยบอกต่อกันระหว่างคนรอบข้าง ทำให้ความน่าเชื่อถือมีมากขึ้น

สิ่งสำคัญคือ ขอให้คุณรักษามาตรฐานต่าง ๆ เช่น ขายสินค้าที่ดี, บริการด้วยความยอดเยี่ยม, ให้คำปรึกษาลูกค้า บริการหลังการขาย ไม่ขายสินค้าครั้งเดียวเหมือนตีหัวเข้าบ้าน แล้วก็ปล่อยลูกค้าให้ลอยแพ เป็นต้น ซึ่งหากเทคแคร์ดูแลลูกค้าทุกคน ทุกระดับประทับใจ กลุ่มลูกค้าของคุณจะส่งต่อข้อความที่เป็นเรื่องที่ดี ๆ จากการเลือกใช้บริการธุรกิจคุณให้กับคนรอบข้างต่อ ๆ ไป โดยที่คุณไม่ต้องทุ่มงบประชาสัมพันธ์อะไรแล้ว

 


4. เลือก Social media ให้เหมาะสม

การยิงแอดโฆษณาเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณให้มองเห็น , การทำคลิปรีวิววิดีโอในยูทูป, การใช้ Line OA, การถ่ายทอดสดเพื่อนำเสนอสินค้า ฯลฯ คุณสามารถศึกษาเรียนรู้และทดลองทำได้ทั้งหมด

แต่ควรเลือกให้เหมาะสม ที่คุณสะดวกสุด ถนัดสุด หรือคิดว่า มีความเป็นไปได้สอดคล้องกับธุรกิจคุณที่สุด โดยโซเชียลมีเดียจะช่วยคุณได้จริง ๆ เหตุผลเพราะ ในปัจจุบันลูกค้าของคุณทั้งใหม่และเก่าต่างก็ออนไลน์กันอยู่บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

 

แต่ก็อย่าลืม ทำการตลาดในรูปแบบออฟไลน์ และการบริการที่ดีให้กับลูกค้าของคุณ ด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นด้วย เพื่อ Cover ประสิทธิภาพ , ผลลัพธ์ และยอดขายที่ดีขึ้นกว่าเดิม


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line