ใคร ๆ ก็อยากมี "คู่ครอง" หรือ "คู่ชีวิต" ที่ดี รักกันดูแลกันไปจนแก่เฒ่า ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร..

สำหรับคู่รักนั้น.. "การจัดงานแต่งงาน" คือ ขนมธรรมเนียมที่งดงาม คือประเพณีที่สืบทอดมาช้านาน อีกทั้ง การแต่งงาน แสดงให้เห็นถึงความรักของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เพื่อความปรองดองและถูกต้องตามแบบแผน ทำตามประเพณีดั้งเดิม ทำให้เป็นที่รับรู้ของผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย และเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย พูดได้ว่า เพื่อความถูกต้องทั้งทางการใช้ชีวิตทั้งทางกฎหมายและประเพณีนั่นเอง

ทว่า ปัจจุบัน ด้วยค่านิยม ความเชื่อ รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เปลี่ยนไปมาก อาทิ สภาพเศรษฐกิจ, ค่านิยมสังคมที่มีความอิสระเสรีมากขึ้นกว่าสมัยก่อน , ความพร้อมและไม่พร้อมของคู่รัก รวมทั้งมุมมองและรายละเอียดปลีกย่อย ของญาติ ๆ ของทั้งสองฝ่ายที่มีต่อคู่บ่าวสาว ซึ่งมีแนวคิดที่แตกต่างกันออกไป ที่เปลี่ยนไปจากดั้งเดิม จำนวนไม่น้อย

อาจยกตัวอย่างได้ว่า คู่รักหลายคู่ ที่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ โดยขออยู่ก่อนแต่ง เพื่อศึกษาเรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน หรือ คู่รักอีกหลายคู่ ที่พ่อแม่ต้องการจัดพิธีกันแบบเงียบ ๆ เรียบง่าย ตามความเชื่อและพิธีกรรมในท้องถิ่น เพราะไม่อยากจัดงานแต่งให้เอิกเกริก ใหญ่โตอะไร เพราะมองว่า ดูฟุ่มเฟือย เพราะฐานะไม่ได้ร่ำรวย และต้องการความเป็นส่วนตัว เป็นต้น

ค่านิยมที่เปลี่ยนไปดังกล่าวที่เอ่ยไปข้างต้น ส่งผลให้ คู่รักหลายคู่ เลือกที่จะ "ไม่จัดงานแต่ง" ทำให้เป็นไปได้ว่า อาจจะกระทบชิ่ง ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ ธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอ (Wedding Studio) รวมถึงกลุ่มธุรกิจ Organize บริการจัดงานแต่ง ถ่ายรูป-เช่าชุด ฯลฯ ที่ดูเหมือนว่า จะมีกลุ่มลูกค้าที่ตัดสินใจเข้ามาใช้บริการน้อยลง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบเรื่องของรายได้ไปบ้าง ไม่มากก็น้อย

โดยหากลงลึกรายละเอียด สำหรับ ธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอ ในปัจจุบัน ยังมีอีกหลายปัจจัยที่มากระทบต่อยอดขาย กำไรและรายได้ในการดำเนินธุรกิจประเภทดังกล่าวนี้ อีกพอสมควร

ซึ่ง Smart SME มองว่า มีความน่าสนใจ และเป็นข้อมูลสำหรับ คู่รัก , บ่าวสาวป้ายแดง เพื่อนำไปประกอบการคิดพิจารณาในการวางแผนการเริ่มต้นชีวิตคู่ และอีกหลาย ๆ เรื่องได้เป็นอย่างดี

ดังนั้น จึงขอนำเพื่อน ๆ ไปอัปเดตกันสักนิด เกี่ยวกับความเป็นไปของการดำเนินกิจการร้านเวดดิ้ง สตูดิโอ ถ่ายรูป-เช่าชุดแต่งงาน ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไรกันบ้าง ? ถือว่า เป็นการต้อนรับลมหนาว เป็นสัญญาณของฤดูแห่งความรัก และเทศกาลงานมงคลสมรส ที่กำลัง Come Back อีกครั้งแล้ว !

โดยก่อนอื่น.. ต้องขอพาเพื่อน ๆ ไปดูภาพรวมของตลาดธุรกิจเวดดิ้งบ้านเราในปัจจุบันกันก่อน โดยจากข้อมูลธุรกิจงานแต่งงาน ศูนย์วิจัยกสิกรสรุปว่า..

• มูลค่าตลาดธุรกิจวิวาห์สูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี

• โดยมีคู่สมรสจดทะเบียนมากกว่า 300,000 คู่ต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 80-90% ของคู่รักคนไทยที่มีการจัดงานแต่งงาน

• เฉลี่ยการจัดงานแต่งงานของคู่รักแต่ละคู่นั้น จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยราว 500,000 – 1,000,000 บาทต่อครั้ง

• ในขณะที่คู่รักชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาแต่งงานในประเทศไทยนั้น จะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5 – 20 ล้านบาทต่อครั้ง

จากข้อมูลดังกล่าวในภาพรวม บ่งชี้ให้เห็น และสามารถคิดตามไปได้อีกในหลาย ๆ มิติ ที่จะมาเกี่ยวข้องกับธุรกิจจัดงานแต่ง โดยมีเหตุผลหลายประการ ที่คู่รักหนุ่มสาวสมัยนี้ ไม่อยากจัดงานแต่ง หรือคิดจะแต่งงานกันน้อยลง โดยอาจสรุปและยกตัวอย่างได้ ดังนี้

1. ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจัดงานแต่งงาน ทั้งคู่รัก หรือครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ต้องมีความพร้อมทั้งเรื่องงบประมาณการจัดงาน เพราะต้องใช้เงินจำนวนค่อนข้างสูงในการจัดเตรียมงานในทุก ๆ กระบวนการ ตลอดจนการตกร่องปล่องชิ้น ตกลงจะดองกันเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ จึงจะมีความพร้อมที่จะสามารถจัดงานแต่งงานได้อย่างสมเกียรติหรือเหมือนฝันของคู่รักนั้น

2. ด้วยสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง ปัญหาสังคม และเหตุบ้านการเมืองต่าง ๆ จึงทำให้เกิดแนวคิดคู่รักหลายคู่ มองว่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่การรักกันดูแลกันไปตลอด นั่นคือสิ่งที่คู่รักต้องการมากกว่า

3. แค่ทำงานก็ยุ่งแล้ว เอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนหรือเลี้ยงลูก

4. ถ้าหาแฟนดีไม่ได้ ก็อยู่เป็นโสดไปสบายใจกว่า

5. หลายคนโฟกัสเรื่องอนาคตของตัวเอง หน้าที่การงาน การเงิน อยากประสบความสำเร็จเรื่องงาน ก่อนจะมีครอบครัว

6. วัยทำงาน มองว่า ชีวิตยังใช้ไม่คุ้ม จะรีบมีครอบครัวทำไม

7. อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะแต่งงานมีลูกให้สิ้นเปลืองทำไม

8. แค่เลี้ยงตัวเองยังยากเลย เอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงลูก

9. สังคมปัจจุบัน ไม่น่าอยู่เหมือนสมัยก่อน ซึ่งหากต้องแต่งงาน และถึงขั้นมีลูก แล้วลูกจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหรอ ?

10. ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้หญิงที่แต่งงานและมีลูกแล้ว จะเหมือนตัดโอกาสในชีวิตของตัวเองไปหลายอย่าง เช่น อาจได้ค่าจ้างการทำงานที่น้อยลงกว่าเดิม และหางานยากกว่าคนที่ไม่มีลูก

11. สำหรับผู้หญิงสมัยนี้จะมองว่า เลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วยไม่ง่ายเลย จึงตัดสินใจขออยู่เป็นโสด หรือหากมีแฟนก็มีจำนวนไม่น้อยที่อาจจะไม่แต่งงาน เพราะอยากเก็บเงินเอาไว้ตั้งหลัก สร้างอนาคต เป็นทุนตั้งต้นในชีวิตคู่เสียดีกว่า

จากตัวเลขสถิติข้างต้น ไม่ได้ตั้งใจชวนให้ผู้อ่านให้คิด 'ดราม่า' หรือคิดในเรื่องที่เลวร้ายเพียงอย่างเดียว เพราะเอาเข้าจริง ๆ มีหลาย ๆ ผู้ประกอบการธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอ ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ ยังคงรักษาคุณภาพการให้บริการ และสร้างฐานลูกค้า คู่รักได้ในทุก ๆ ปี

ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ ปัจจุบันนี้ ธุรกิจร้านเช่าชุดก็ยังมีจำนวนไม่ได้น้อยลงไปจากเดิม และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย เพราะธุรกิจเช่านี้ มีข้อดี คือ สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคนี้ได้เป็นอย่างเป็นดี ที่ไม่จำเป็นต้องสั่งตัด-ซื้อชุดไปครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ก็สามารถมีชุดสวย ๆ ในหลากหลายสไตล์ใส่เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ได้ในทุกโอกาส

นั่นจึงทำให้เกิดการแข่งขันกัน ระหว่างธุรกิจร้านเช่าชุดไปโดยปริยายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจร้านเช่าชุดอื่น ๆ ที่ทำการตลาดเหมือนกัน เช่น ธุรกิจร้านเช่าชุดแต่งงาน ธุรกิจร้านเช่าชุดราตรี ธุรกิจร้านเช่าชุดแบรนด์เนม เป็นต้น

อย่างที่บอกไป ว่า การแข่งขันในธุรกิจนี้ก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจร้านเช่าชุด หรือ ธุรกิจเวดดิ้ง สตูดิโอ นั้น จะดีกว่าไหม ? ถ้าหากธุรกิจร้านเช่าชุดของคุณ มีกลยุทธ์สุดปัง ! ที่จะนำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จเหนือว่าคู่แข่งในสนามเดียวกัน

โดยในมุมของผู้ประกอบการ แอดฯ มีกลยุทธ์จัดการร้านเช่าชุดแต่งงานให้เป็นร้านยอดนิยม มาฝากกัน ลองนำไปปรับใช้ ลองดูว่า ร้านของท่านต้องเน้นให้ความสำคัญกับอะไร ที่จะทำให้ธุรกิจร้านเช่าชุดของท่านประสบความสำเร็จและดำเนินกิจการต่อไปได้ในระยะยาว

กลยุทธ์จัดการร้านเวดดิ้ง สตูดิโอ ให้เป็นที่นิยม & ได้ใจลูกค้า

1. เน้นคุณภาพของชุดเช่า ที่ต้องได้คุณภาพ สวยงาม และสวมใส่สบาย

สิ่งแรกที่คู่รักจะเข้ามาขอลองชุด สิ่งแรกที่จะตัดสิน คือ ความสวย คุณภาพ งานคัตติ้ง รวม ๆ แล้วชุดแต่ละชุดจะต้องเนี้ยบที่สุดเท่าที่จะเนี้ยบได้ เพราะธุรกิจร้านเช่าชุดนั้นจำเป็นต้องมีการหมุนเวียนชุดไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้าแต่ละคนเช่าไปในแต่ละวัน ถ้าหากว่าชุดไม่ได้คุณภาพ ส่งผลโดยตรงทำให้ลูกค้าปฏิเสธร้านของคุณ ส่งผลให้กำไรหด

เพราะฉะนั้น การเลือกชุดที่จัดเต็มไปด้วยคุณภาพไว้ก่อนจึงจะดีที่สุด ลูกค้าจะประทับใจในชุดของร้านคุณ จนเกิดการบอกแบบปากต่อปาก ทำให้มีคนอยากมาเช่าชุดของร้านคุณอีก สร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

2. ลูกค้าถามปุ๊บ ! คุณตอบปั๊บ ! บริการต้องสะดวก รวดเร็ว

ยุคนี้ทำอะไรก็ต้องเร็ว ต้องไว และต้องสะดวกที่สุด ร้านเช่าชุดที่ดีควรจะต้องจัดการอะไรต่าง ๆ ภายในร้านได้อย่างมืออาชีพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต้องอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เช่น ส่งชุดตรงเวลา ให้คำแนะนำลูกค้าให้อย่างรวดเร็ว แก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างฉับไว หรือในกรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกที่จะมาที่หน้าร้าน การมีเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเลือกเช่าชุดจากที่ไหนก็ได้ เช่าได้ทุกที่ ทุกเวลา ก็จัดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก

3. Marketing & Promotion จัดเต็ม อย่าให้ขาด !

โปรโมชั่น หรือการทำการตลาดลด แลก แจก แถม เพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าโดยที่ร้านไม่เสียกำไร คือ สิ่งสำคัญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้อย่างดีงาม ช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น รักษาฐานลูกค้าเก่าไว้อย่างเหนียวแน่น เช่น โปรโมชั่นส่งฟรี โปรโมชั่นเช่า 2 ชุด ฟรี 1 ชุด (แถมชุดลําลอง เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว เพื่อใช้ใส่ในงานไปให้เพิ่ม ก็ได้ใจลูกค้านะ) หรือ โปรโมชั่นขยายเวลาเช่า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับลักษณะและประเภทของร้านเช่าชุดของคุณ

ทั้งหมดนี้คือ กลยุทธ์ หรือวิธีการที่จะทำให้ร้านเช่าชุดของคุณกลายเป็นร้านยอดนิยม ทำให้ลูกค้าประทับใจและเกิดการบอกต่อ เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกเก่าเอาไว้อย่างได้ผล

อย่างไรก็ดี สำหรับธุรกิจเช่าชุดแต่งงาน หรือร้านเวดดิ้ง สตูดิโอ ถึงอย่างไรก็ไม่มีวันล้มหายตายจากไปจากตลาดอย่างแน่นอน ตราบใดที่ความรักยังมีอยู่ในสังคมไทย ซึ่งการแต่งงาน ถือเป็นจุดสูงสุดของการเริ่มต้นชีวิตคู่ของคู่รักหลาย ๆ คน

โดยเฉพาะฝ่ายสุภาพสตรี ที่ใฝ่ฝันว่า อยากจะมีงานแต่งของตัวเองและคนรักที่จัดอย่างสมเกียรติ เป็นสิ่งแทนใจถึงความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กัน เพื่อที่จะครองรักครองคู่อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ

สำหรับคู่แฟน คู่รักที่มีแพลนจะแต่งงาน แอดฯ ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยจ้า ขอให้มีความรัก มีความเมตตาต่อกัน ทำอะไรก็นึกถึงกันและกันอยู่เสมอ ขอให้ทั้งคู่รักและเคารพกัน ต่อจากนี้ไป ทั้งสองเป็นคน ๆ เดียวกันแล้ว รักกันมาก ๆ บอกตรง.. แอดฯ อิจฉา !