Motto ที่ว่า.. “ปลูกผักเพราะรักแม่” เมื่อได้อ่านและฟังดู ก็รู้สึกอบอุ่นกินใจ แต่กับชื่อแบรนด์ "โอ้กะจู๋" (OHKAJHU) ที่พอเห็นทีแรก ทำให้อดคิดตามไม่ได้ถึงความทะลึ่งทะเล้น ซึ่ง Code ทั้งสองคำนี้ ให้ความรู้สึกดูย้อนแย้ง แต่ในเชิงการบริหารธุรกิจ กลับกลายเป็นว่า ลงตัวมาก ๆ และเป็นแบรนด์ SME ที่เติบโตแบบสุด ๆ ในชั่วโมงนี้

คงไม่ต้องเท้าความอะไรเยอะ สำหรับแบรนด์ "โอ้กะจู๋" ซึ่งคนในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงร้านอาหารสุขภาพต้องรู้จักกันอยู่แล้ว แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ "โอ้กะจู๋" นั้น..

โดย Smart SME จะขอแนะนำให้รู้จักในแบบฉบับกระชับฉับไว เพราะความเจ๋ง ของแบรนด์นี้ หากลงรายละเอียดมีเรื่องเล่าเยอะมาก บรรยายไม่หมดในช่วงเวลาสั้น ๆ แน่นอน ซึ่งเจ๋งแค่ไหน.. ถึงขนาดที่บริษัท OR ในเครือ ปตท. ต้องขอซื้อหุ้น เพื่อนำไปเพิ่มมูลค่าและทำการตลาดต่ออีกด้วย

จุดนี้เอง ที่แอดฯ จะขอนำเสนอความ "เจ๋ง" ของแบรนด์ "โอ้กะจู๋" ที่อาจจะมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนยังไม่รู้ ว่า มีดีอะไรขนาดนั้น ? ถึงขนาด OR ต้องมาขอเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย

"อู๋–ชลากร เอกชัยพัฒนกุล" ผู้ก่อตั้ง "โอ้กะจู๋" ส่องความสำเร็จ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่ธุรกิจที่ OR ต้องขอซื้อ !?

รู้จัก "โอ้กะจู๋" บางเรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่..ว่าที่ บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์

• ในช่วงระยะเวลาประมาณ 10 ปี ที่ร้านโอ้กะจู๋ มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งจากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานผลประกอบการของ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด พบว่า..

พ.ศ.2560 รายได้ 84.30 ล้านบาท กำไร 1.8 ล้านบาท
พ.ศ.2561 รายได้ 181.54 ล้านบาท กำไร 11.78 ล้านบาท
พ.ศ.2562 รายได้ 643.04 ล้านบาท กำไร 79.83 ล้านบาท
พ.ศ.2563 รายได้ 836.80 ล้านบาท กำไร 33.08 ล้านบาท
พ.ศ.2564 รายได้ 803.01 ล้านบาท ขาดทุน 83.37 ล้านบาท
พ.ศ.2565 รายได้ 1,214.9 ล้านบาท กำไร 38.3 ล้านบาท

• วันจดทะเบียน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด วันที่ 10 ก.ค.2557

• "โอ้กะจู๋" คือ ร้านอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ ที่ไม่ได้หมายความว่า จะขายเฉพาะสลัดอย่างเดียว แต่ความหมายคือ การใช้ผักที่เจ้าของร้านปลูกเองแบบออร์แกนิค คือ ปลอดสารพิษ เพื่อต้องการส่งมอบสิ่งที่ดีมีประโยชน์ให้คนกินทั่วประเทศ ปัจจุบัน มีเมนูกาแฟออร์แกนิค สลัดออร์แกนิค สเต๊ก และอื่น ๆ อีกมากมาย

•"โอ้กะจู๋" เกิดจากการมีฝันร่วมกัน ที่อยากทำแปลงปลูกผักปลอดสารพิษเป็นของตัวเองส่งขายตลาด ของเพื่อนรักสมัยเรียนทั้งสองคน คือ 'คุณอู๋–ชลากร เอกชัยพัฒนกุล ' และ 'คุณโจ้–จิรายุทธ ภูวพูนผล'

โดยตั้งชื่อแบรนด์ที่นำมาผวนคำสลับเล็กน้อย เพื่อให้ได้ความเป็นแปลกใหม่ เกิดเป็นชื่อ “โอ้กะจู๋” นั่นเอง (ปัจจุบันมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนและบริหารธุรกิจร่วมกันภายใต้แบรนด์ โอ้กะจู๋ ได้แก่ คุณต้อง - วรเดช สุชัยบุญศิริ ฯลฯ)

"คุณโจ้–จิรายุทธ ภูวพูนผล" ผู้ก่อตั้ง "โอ้กะจู๋" ส่องความสำเร็จ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่ธุรกิจที่ OR ต้องขอซื้อ !?

• ที่มาที่ไปสำหรับแนวคิดการทำสวนผัก เพราะหุ้นส่วนทั้งสองคน เกิดในครอบครัวที่บ้านเป็นเกษตรกร จึงอยากต่อยอดองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคนิคปลูกผักสวนครัว และผักพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาต่อยอดสู่การบริหารธุรกิจ และการบริหารจัดการแบบ Smart Farmer ที่เป็นระบบ ทันสมัยมากขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ อยากให้คนไทยทุกคนได้บริโภคผักสะอาดปลอดสารพิษได้อย่างมั่นใจ สุขภาพแข็งแรง ถือเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ และ หล่อขึ้นไปอีก !

• สวนผักโอ้กะจู๋ เริ่มก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 2010 (พ.ศ.2553) บนพื้นที่เพียง 1 ไร่ ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

"โอ้กะจู๋" ส่องความสำเร็จ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่ธุรกิจที่ OR ต้องขอซื้อ !?

"โอ้กะจู๋" ส่องความสำเร็จ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่ธุรกิจที่ OR ต้องขอซื้อ !?

• ปัจจุบัน จากแปลงผักเล็ก ๆ ใน จ.เชียงใหม่ ขนาด 180 ตร.ม. สู่แปลงปลูกผักกว่า 380 ไร่ และมีที่เริ่มขยายสาขาสู่กรุงเทพฯ แล้วด้วย โดยหลัก ๆ แบ่งเป็น 3 แห่ง ดังนี้

1.) สวนผักแห่งศรัทธา (ORGANIC FARM BRANCH) ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

สวนผักแห่งแรกของ โอ้กะจู๋ เริ่มต้นจากที่นี่จากโรงเรือนหลังเล็ก ๆ ขนาด 6*30 ตรม.ที่เริ่มปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิด และเป็นที่มาของสโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่”

2.) สวนปลูกผักเพราะรักแม่ (LOVE MOM FARM) ต.หนองไคร้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

อยู่ห่างจากสวนผักสาขาแรกไม่ไกล แค่ 100-150 เมตร จะเห็นแปลงผักแห่งที่สองของสวนผักโอ้กะจู๋ พื้นที่จำนวน 12 ไร่ โดยปลูกผักสลัดออแกนิคเต็มพื้นที่ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อให้แปลงที่หนึ่งได้มีเวลาในการพักหน้าดิน เพื่อฟื้นฟูสภาพ โดยการปลูกพืชหมุนเวียนในช่วงเปลี่ยนฤดู ดินจะมีความอุดมสมบูรณ์ และรักษาหน้าดินในระยะยาว

3.) สวนปลูกผักเพราะรักพ่อ (LOVE DAD FARM) อ.ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่

หลังจากที่สวนผักโอ้กะจู๋ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่รักสุขภาพ เห็นความสำคัญของเกษตรกรที่ปลูกผักเกษตรอินทรีย์ และสนับสนุนแบรนด์ด้วยดีเสมอมา จึงได้ขยายสาขาเพิ่มเป็นโอ้กะจู๋สาขาสอง ตั้งอยู่บริเวณ 'สี่แยกแอร์พอร์ต'โดยปลูกผักเพิ่มอีก บนพื้นที่ 50 ไร่ เพื่อเพียงพอสู่ครัวโอ้กะจู๋ทั้งสองสาขา และสาขาที่จะเกิดในอนาคต

โดยมีอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง พร้อมกับปลูกสลัดมากกว่า 25 ชนิด เช่น ร๊อคเก็ต มิซูน่า เรดคอรัล บาซูก้า เรดคอส ฟินโนซ่า ผักไมโครกรีน และผักนานาชนิดที่หาทานได้ยากเฉพาะสวนผักโอ้กะจู๋เท่านั้น

โดยมีกำลังผลิตมากกว่า 5,000 กิโลกรัม ต่อวัน ทยอยเก็บเกี่ยวเข้าสู่ครัวโอ้กะจู๋ ในทุก ๆ วัน

"โอ้กะจู๋" ส่องความสำเร็จ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่ธุรกิจที่ OR ต้องขอซื้อ !?

• สาขาร้านอาหารปัจจุบันของ "โอ้กะจู๋" มีเปิดให้บริการแล้วกว่า 30 สาขา กระจายอยู่ที่ จ.เชียงใหม่, จ.ชลบุรี, กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งที่ขึ้นห้างฯ , รูปแบบร้าน built in และร้านแบบ Stand Alone

• ทั้งนี้ หลังจากการเข้าซื้อหุ้นของ OR ทำให้ร้านอาหารโอ้กะจู๋ ขยายตลาดและเปิดกิจการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก โดยรวม ๆ ที่เปิดให้บริการของทั้ง บจก.ปลูกผักเพราะรักแม่ บริหาร และร้านที่ OR บริหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ (สังเกตง่าย ๆ ถ้ามีร้านโอ้กะจู๋ ในปั๊มน้ำมัน นั่นคือ OR บริหาร)

"โอ้กะจู๋" ส่องความสำเร็จ จากสวนผักเล็ก ๆ สู่ธุรกิจที่ OR ต้องขอซื้อ !?

มองอนาคต 'โอ้กะจู๋' เมื่อ OR ขอแจมด้วย

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแบรนด์ "โอ้กะจู๋" เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2021 (พ.ศ.2564) บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “OR” ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ระหว่าง "บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OR กับ "บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด" ซึ่งดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋”

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ OR เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 ตั้งเป้าขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ เพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ซึ่งมีจำนวนกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดในโซนภาคเหนือ

• OR เข้าซื้อโอ้กะจู๋ สัดส่วน 20% มูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท

• OR มีส่วนช่วยให้ โอ้กะจู๋ สามารถขยายสาขาเพิ่มไปตามปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ และยังสามารถลงสินค้าใน Cafe Amazon ได้อีกด้วย

• อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดบริษัทของ OR ที่ใหญ่ถึง 3 แสนล้านบาท การเข้ามาของ โอ้กะจู๋ มีผลต่อรายได้ของ OR ไม่ถึง 1%

• วัตถุประสงค์ที่ OR เข้ามาซื้อหุ้น โอ้กะจู๋ ได้ถูกสื่อและนักลงทุนหลาย ๆ ฝ่าย ตลอดจนเหล่านักวิเคราะห์ให้มุมมองกันไว้ว่า น่าจะเป็นการ “เสริมแกร่ง” และมองหาการส่งเสริม Startup เจ้าใหม่ ๆ เพื่อความหลากหลายของธุรกิจของ OR เองด้วย

• สิ่งที่นักลงทุน และประชาชนทั่วไปกำลังให้ความสนใจ และจะต้องไปจับตามองกันต่อ คือ ในอนาคตของทั้ง OR และ บจก.ปลูกผักเพราะรักแม่ ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังอย่าง 'โอ้กะจู๋' ว่า หลังจากที่ทั้งสองได้ร่วมมือกันแล้ว จะทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ หรือการเติบโตในเชนธุรกิจนี้ ในรูปแบบที่น่าสนใจแค่ไหน ?

ไม่ใช่แค่ OR ที่ได้ประโยชน์ แต่ 'โอ้กะจู๋' ก็เช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจ คือ ต้องรอดูตัวเลขการเติบโตของ โอ้กะจู๋ หลังดำเนินธุรกิจร่วมกันนั้น จะเป็นอย่างไร ? เพราะการร่วมมือกับ OR เป็นส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพของ โอ้กะจู๋ อย่างก้าวกระโดดได้เช่นกัน

เพราะปัจจุบัน โอ้กะจู๋ มีการลงทุนบางเขต บางโซน บางภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ จ.เชียงใหม่ เท่านั้น ยังเหลือพื้นที่ให้พัฒนาเติบโตอีกมาก

ซึ่งการได้ OR มาเป็นพาร์ทเนอร์ นั่นหมายความว่า โอ้กะจู๋ การันตีทำเล (Location) ขยายหน้าร้าน ที่สามารถเข้าไปอยู่ใน PTT Station ที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 2,158 แห่ง ทั่วประเทศไทย

ด้วยกลยุทธ์ "จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน" นี้.. อนาคต 'โอ้กะจู๋' อาจเติบโตแบบพุ่งติดจรวด และเป็นหนึ่งในรายได้สำคัญของ OR ก็เป็นได้