วันจันทร์, เมษายน 29, 2567

“แลนด์บริดจ์” คืออะไร ดีพอที่เพิ่มศักยภาพให้ไทยเป็นประตูการค้านานาชาติหรือไม่

by Anirut.j, 24 มกราคม 2567

ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่กับโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือแลนด์บริดจ์ ว่าสุดท้ายแล้วควรดำเนินการเดินหน้าต่อ หรือหยุดอยู่แค่นี้ ไม่ควรไปต่อ แน่นอนว่าต่างฝ่ายก็ยกข้อดี-ข้อเสีย ออกมานำเสนอถึงความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้นกับผลกระทบที่จะตามมา

โดยวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดระนอง ซึ่งงานนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการสร้างแลนด์บริดจ์ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไทยก็มีการทวิตข้อความผ่าน X ว่าจังหวัดระนองเป็นเป้าหมายจะมีบทบาทสำคัญมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โครงการแลนด์บริดจ์จะมาสร้างอาชีพ รายได้ และพัฒนาพื้นที่ให้คนในพื้นที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

โครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน เรียกได้ว่าเป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ยักษ์ 1 ล้านล้านบาท โดยโปรเจ็กต์นี้เคยมีการพูดถึงกันมาก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ปี 2528 แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างที่ต้องเป้าหมายไว้สักที และปัจจุบันถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการรับหลักการไว้เรียบร้อยแล้ว

หากเรามองว่า ทำไมโครงการแลนด์บริดจ์ถึงต้องเกิดขึ้น หากเกิดขึ้นจริง และทำสำเร็จ ประโยชน์ที่ตามมาคือประเทศไทยจะกลายเป็นประตูการค้านานาชาติด้านโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้าทางเรือเลยทีเดียว โดยโครงการนี้จะแบ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่

1.ท่าเรือน้ำลึกฝั่งอันดามัน จ.ระยอง
2.ท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย จ.ชุมพร
3.เส้นทางเชื่อมท่าเรือทั้งสองฝั่งระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
4.การถมทะเลเพื่อพัฒนาสนับสนุนท่าเรือ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทุกวันนี้การเดินเรือขนส่งสินค้า หากจะเดินทางมาจากฝั่งอ่าวไทยมาอันดามัน หรือจะข้ามมายังอีกฝากหนึ่ง เรือจะต้องไปอ้อมที่ช่องแคบมะละกาที่อยู่ทางตอนใต้ของมาเลเซีย และสิงคโปร์ นั่นหมายความว่าตอนนี้การขนส่งทางน้ำในภูมิภาคนี้สิงคโปร์ควบคุมทั้งหมด แต่หากโครงการแลนด์บริดจ์เกิดขึ้นก็จะทำให้ประเทศไทยเนื้อหอมมากขึ้น เพราะจะทำให้เรือขนส่งสินค้าไปต้องเดินทางไกลไปถึงสิงคโปร์ ซึ่งใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 9 วัน แต่สามารถตัดเข้าจากจังหวัดชุมพรไปยังระนองจะใช้ระยะเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น จะทำให้สิงคโปร์มีคู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการเดินเรือขนส่งสินค้า

นอกจากนี้ ยังมีข้อดีในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจของภาคใต้ที่จะทำให้จีดีพีเติบโต เกิดความคึกคักทางด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากมีเรือขนส่งสินค้าสัญจรมากขึ้น และเกิดการจ้างงานให้กับคนในพื้นที่ได้มีรายได้ แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกัน ซึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่องสิ่งแวดล้อมจากการขุดคลองเป็นระยะทาง 90 กิโลเมตร ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น ป่าไม้ สัตว์ พันธุ์พืช ตลอดจนวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงมลพิษที่ปริมาณเรือขนส่งสินค้าที่มากขึ้น บางทีคราบน้ำมัน หรือของเสียถูกปล่อยปะปนไปกับน้ำทะเล และมีการพูดถึงความไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนที่ไม่ตอบโจทย์ผู้ขนส่งเท่าไหร่

สุดท้ายก็ต้องมาปรับความสมดุลทั้งในเรื่อง “เศรษฐกิจ” และ “สิ่งแวดล้อม” ให้สามารถเดินควบคู่ไปด้วยกันได้

ทั้งนี้ โครงการแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้านบาท จะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งเราจะเห็นที่ผ่านมารัฐบาลมีการเดินสาย Road Show เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น ให้เข้ามาลงทุน

 


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line