วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2567

สคบ. จ่อคุมขายของออนไลน์ ไม่จดทะเบียนโทษหนัก

by Smart SME, 15 กรกฎาคม 2559

สคบ. จ่อคุมขายของออนไลน์ ไม่จดทะเบียนโทษหนัก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ. เตรียมเข้าตรวจสอบการขายของผ่านออนไลน์ หากผู้ประกอบการรายใดไม่ได้จดทะเบียน มีโทษจำคุก นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ. เปิดเผยว่า สคบ.ได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเอ็ตด้า ให้ช่วยตรวจสอบการโฆษณา รวมถึงการขายสินค้า และบริการ ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ ในประเทศไทย ว่า ผู้ที่โฆษณาและขายสินค้าทั้งหมดได้จดทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ ทั้งการจดทะเบียนการค้า และจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรงกับสคบ. หากตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการรายใดไม่ได้จดทะเบียนทั้ง 2 ประเภท ถือว่ามีความผิดมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับสูงสุด 100,000 บาทและถ้าไม่รีบจดทะเบียนต้องถูกปรับเป็นรายวันอีกวันละ 10,000 บาทด้วย ซึ่งกลุ่มสินค้าและบริการที่เข้าข่ายการตรวจสอบ จะเน้นสินค้าที่มีแบรนด์ มียี่ห้อเป็นของตัวเอง เพราะถือว่าได้ทำธุรกิจจริง ต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค เพราะจะได้รู้แหล่งที่มาของสินค้าอย่างชัดเจน เวลาตรวจสอบจะทำได้ง่าย ส่วนอีกกลุ่มจะเป็นพวกขายสินค้ามือสอง ซึ่งไม่ได้สร้างแบรนด์ของตัวเอง เพียงแต่อยากขายของเท่านั้น กลุ่มนี้จะได้รับการยกเว้น ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่า การซื้อขายสินค้า และโฆษณาทางออนไลน์มีเป็นจำนวนมาก หากให้เจ้าหน้าที่ สคบ.เพียง หน่วยงานเดียวตรวจสอบคงทำได้จำกัด จึงต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อช่วยดูแลไม่ให้ผู้บริโภคถูกหลอกลวงภายหลัง ทั้งนี้ จากการรายงานข้อมูลเบื้องต้นของการจดทะเบียน การประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ที่สคบ.ดูแลอยู่นั้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนเพียง 1,000 ราย จากจำนวนผู้ประกอบการหลายหมื่นรายทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะโฆษณา และขายสินค้าโดยตรงให้ผู้บริโภค บางครั้งก็เป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายต่อร่างกายเมื่อนำไปใช้ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอาง และอาหารเสริมต่าง ๆ ดังนั้นสคบ.จึงต้องเร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ทันต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เลือกซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น  

Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line