ขายโดนัทอยู่ดีๆ “ทำไมต้องเป็นคาเฟ่”
by Smart SME, 9 ธันวาคม 2559
[caption id="attachment_54928" align="alignright" width="150"] ภาวนา อรัญญิก[/caption]
ตลาดโดนัทในประเทศไทยมีผู้ประกอบการ 4 แบรนด์ใหญ่ คือ ดังกิ้น โดนัท, มิสเตอร์ โดนัท, แด๊ดดี้ โด และคริสปี้ครีม โดย “มิสเตอร์ โดนัท” เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% และตลาดโดยรวมมีมูลค่ารวมกว่า 3.5 พันล้านบาท ปีที่แล้วเติบโต 8% แต่ในปี 2559 คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตน้อยลง
แม้ว่าตลาดโดนัทในไทยถือเป็นธุรกิจที่ให้กำไรดี ยังมีช่องว่างทางการตลาดให้เติบโตได้อีก แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดทั้งมิสเตอร์ โดนัท และดังกิ้น โดนัท กลับมองตรงกันที่จะมุ่งพัฒนารูปแบบร้านไปในสไตล์คาเฟ่ โดยทั้งสองแบรนด์เริ่มจากการสร้างการรับรู้ด้วย “กาแฟ” โดยมองว่ากาแฟเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มเครื่องดื่ม ด้วยคุณภาพที่ไม่แตกต่างจากนั่งดื่มในร้านกาแฟแบรนด์พรีเมี่ยมยอดนิยม แต่กลับมีราคาย่อมเยากว่า ขณะเดียวกันกาแฟยังเป็นการสร้างโอกาสที่จะดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มได้
จากนั้นจึงนำสไตล์ “คาเฟ่” มาใช้เต็มรูปแบบ ด้วยการเพิ่มเมนูเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ, เบเกอรี่ และอาหาร เพื่อรองรับการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าได้ตลอดวัน กลยุทธ์ดังกล่าวสะท้อนแนวคิดการสร้าง New Model หรือรูปแบบร้านใหม่ที่ไม่ได้จำกัดพื้นที่ตัวเองไว้ที่ร้านขายโดนัทเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
ทำไมต้อง “คาเฟ่”
- ตลาดโดนัทมีการแข่งขันสูง
- ต้องการขยายรายได้จากเครื่องดื่มมากขึ้น
- รูปแบบคาเฟ่จะทำให้กลุ่มลูกค้าหลากหลายขึ้นและมีลูกค้าหมุนเวียนเข้าใช้บริการในร้านได้ทั้งวัน
- การครีเอทโดนัทรสชาติใหม่ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคตลอดเวลา เริ่มถึงทางตีบตันลงเรื่อยๆ
- โมเดล “คาเฟ่” เปิดกว้างให้นำเมนูอาหารอื่นๆแทรกเข้ามาเพื่ออิงกระแสสุขภาพได้
- เป็นการปรับแบรนด์ให้ทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
ล่าสุดในปี 2559 ดังกิ้น โดนัท ได้มุ่งนำเสนอแบรนด์เพอร์เซพชันจากเพียวโดนัทไปสู่ “โดนัท เบเกอรี คาเฟ่” อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการตกแต่งในสไตล์ทันสมัย และเสริมเมนูอาหารที่หลากหลายเข้ามา อาทิ เมนูอาหารเช้าตลอดวัน , แซนด์วิช และกาแฟพรีเมียมจากสหรัฐอเมริกา
Mostview
หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท