วันพฤหัสบดี, เมษายน 18, 2567

อ่านก่อน!เรื่องควรรู้ก่อนทำการตลาดบนโซเชี่ยลมีเดียในปี 2017

by Smart SME, 9 ธันวาคม 2559

นักการตลาดเริ่มมีความเข้าในสื่อโซเชี่ยลมีเดียมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเนื้อหาที่โพสต์ลงบนโซเชี่ยลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นข่าว ไอเดีย หรือบริการที่สนับสนุนผู้บริโภค ล้วนมีความสำคัญ เพราะข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะเป็นที่มาของโอกาสทางการขาย อย่างไรก็ตาม ในปี 2017 ที่กำลังจะมาถึงนี้เรามาดูเรื่องควรรู้ก่อนทำการตลาดบนโซเชี่ยลมีเดียกันครับว่าแต่ละเรื่องนั้นมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 1.โซเชี่ยลมีเดียแต่ละช่องทางมีความสำคัญไม่เท่ากัน สื่อโซเชี่ยลมีเดียแต่ละช่องทางมีบัญชีผู้ใช้ไม่เท่ากัน เช่น Facebook มีบัญชีผู้ใช้จำนวน 1.59 พันล้านยูสเซอร์ Instagram มีบัญชีผู้ใช้จำนวน 400 ล้านยูสเซอร์ Twitter มีบัญชีผู้ใช้จำนวน 320 ล้านยูสเซอร์ ส่วน LinkedIn และ Pinterest มีบัญชีผู้ใช้จำนวนอย่างละ 100 ล้านยูสเซอร์ หากสินค้าของคุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หรือดึงดูดความสนใจกลุ่มวัยรุ่น คุณควรใช้ช่องทาง YouTube เพราะกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ล้วนใช้ช่องทางนี้มากที่สุด โดยมีผลสำรวจออกมาว่า 44 % ของผู้ชายจะใช้เวลาส่วนใหญ่ท่องอยู่บนเว็บไซต์ ใน 51 ของหมวดหมู่สินค้าที่สนใจ ในทางกลับกัน Instagram กับ  Facebook จะเป็นช่องทางที่เหมาะสำหรับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น เมื่อคุณวางแผนการตลาดควรมองถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ด้วย 2.โซเชี่ยลมีเดียกลายเป็นสื่อแรกที่ผู้คนเปิดรับข่าวสาร การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทำให้สื่อโซเชี่ยลมีเดียกลายเป็นช่องทางแรกสำหรับการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร โดยมีผลสำรวจที่น่าสนใจในเรื่องของการติดตามข่าวด่วน (breaking news) ผู้คนส่วนใหญ่จะใช้สื่อที่เป็นในลักษณะเว็บไซต์ตั้งกระทู้ตอบ-ถาม (หากเปรียบกับบ้านเราคือพันทิป) ถึงร้อยละ 70  ตามมาด้วย  Facebook ร้อยละ 66  และทวิตเตอร์ ร้อยละ 59 เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำการตลาด เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาการเปิดรับข้อมูลจากช่องทางเหล่านี้ก่อน 3.โซเชี่ยลมีเดียเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้า โซเชี่ยลมีเดียคือเป็นสื่อที่มีอิทธิพล สามารถโน้มน้าวต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า จากผลสำรวจช่องทางที่ส่งผลมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้น Facebook คิดเป็นร้อยละ 31 ตามมาด้วย Instagram คิดเป็นร้อยละ 27 , Google+ คิดเป็นร้อยละ 20 , Pinterest คิดเป็นร้อยละ 12 และ Twitter คิดเป็นร้อยละ 8 เห็นได้ชัดว่า Facebook เหมาะสำหรับการทำโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้ Facebook ในด้านประชากรศาสตร์และพื้นที่ต่างๆตามความต้องการของคุณ 4.งบประมาณการตลาดสำหรับสื่อโซเชี่ยลมีเดียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในปี 2015 ใช้งบประมาณทำการตลาด 9.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2017 คาดว่าพวกเขาใช้เงินไป 13.51พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2019 จะใช้เงิน 17.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบๆสองเท่าจากปี 2015 หมายความว่าผู้ชายต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นกว่าเดิมหากต้องการใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียทำการตลาด 5.โซเชี่ยลมีเดียคือการลงทุนที่คุ้มค่า นักการตลาดส่วนใหญ่นิยมทำการตลาดบน Facebook ส่วน Twitter, Instagram ถือว่าเป็นช่องทางการทำการตลาดที่คุ้มค่าเช่นกัน ซึ่งนักการตลาดส่วนใหญ่จะรับผลลัพธ์ในทิศทางบวกจากสื่อโซเชี่ยลมีเดียดังกล่าว อาจจะบอกได้ว่าปัจจุบันสื่อโซเชี่ยลมีเดียกลายมามีความสำคัญกว่าที่เคยเป็นมาจากแต่ก่อน ซึ่งควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นสำหรับการทำการตลาดและโฆษณา แต่ก็ควรทำด้วยความระมัดระวังและหาข้อมูลเทรนด์ใหม่ๆ ก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อๆไป

Mostview

สรุปเงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท นโยบายเรือธงกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินต่อ

อีกหนึ่งนโยบายเรือธงของรัฐบาลที่กลายเป็นที่จดจำของประชาชนในช่วงเลือกตั้งหาเสียงคงหนีไม่พ้นเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

นวัตกรรมชีวเคมี นำแบคทีเรียสร้างเซลลูโลส ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน

นักวิจัยจากจุฬาฯ สร้างนวัตกรรม ‘เซลลูโลส’ จากแบคทีเรีย ทดแทนการนำเข้านับหมื่นล้านบาท ช่วย เศรษฐกิจหมุนเวียน และเป็น zero waste ภายใต้สิทธิบัตร ‘เซลโลกัม’

SOURCE Global บริษัทผู้ใช้แผงโซลาร์เซลล์เปลี่ยนอากาศให้กลายเป็นน้ำดื่ม แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ

ท่ามกลางอากาศที่แห้งแล้งในทะเลทรายของลาสเวกัส ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากกับการแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์รอบบริเวณที่มีอยู่ โดยทางตอนใต้ของเนวาดากำลังเผชิญภัยแล้งที่เลวร้ายที่ครั้งในประวัติศาสตร์ที่ต้องบันทึกไว้ จนนำไปสู่การขาดแคลนน้ำ และข้อจำกัดในการใช้

Asahi เพิ่มการผลิตเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ ชูเป็นสินค้าหลัก หลังคนญี่ปุ่นดื่มเบียร์น้อยลง

Asahi แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เตรียมดันการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มากขึ้นกว่าเดิม หวังสร้างยอดขายในสัดส่วน 50% ภายในปี 2040

SmartSME Line