จากเดิมที่เป็นมนุษย์เงินเดือนมีตำแหน่งที่โก้หรู มีสังคมที่ดูดี แต่ปัจจุบันหันมาทำฟาร์มเกษตรกรรม ปลูกผัก อยู่กับความเป็นจริง และค้นพบว่าทุกวันนี้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก โดยคุณเจส คาลโว เจ้าของฟาร์มรักดี เริ่มแนวคิดที่จะหันมาจับธุรกิจเป็นของตัวเองก็เมื่อตอนที่เขาป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล โดยที่ไม่รู้ว่าถ้าใช้ชีวิตอยู่แบบเดิมสุขภาพจะเป็นอย่างไร และคนข้างหลังจะใช้ชีวิตกันต่ออย่างไรถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมา และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของฟาร์มรักดี โดยส่วนตัวแล้วคุณเจสเองเป็นคนชอบทานผัก และไม่เชื่อว่าผักที่ซื้อจะปลอดสารพิษ จึงได้ปลูกผักกินเองไว้ที่บ้านเล็กๆ แต่จุดเล็กๆนั่นเองกลับทำให้กลายเป็นธุรกิจขึ้นมา โดยในปีแรกที่ทำฟาร์มรักดีนั้นถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเนื่องจากได้วางแผนการตลาดมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อต่อมาความรู้ในการทำฟาร์มยังไม่มากพอ ทำให้เกิดปัญหาภัยธรรมชาติ อาทิเช่น แมลงกัดกิน โรคต่างๆในผัก แต่สิ่งที่คุณเจสเองพึงระลึกไว้ไม่ว่าจะแก้ไขด้วยวิธีใด จะต้องเป็นวิธีที่ปลอดภัยกับผู้บริโภค ซึ่งทางคุณเจสใช้วิธีชีวภาพเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ฟาร์มรักดี ถือได้ว่าเป็นฟาร์มผักระบบไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งมีแนวคิดในการทำธุรกิจเสมือนปลูกผักให้คนในบ้านรับประทาน ดูแลอย่างดีที่สุด ไม่เน้นปลูกผักจำนวนมาก แต่ปลูกผักให้มีคุณภาพ จึงเชื่อได้ว่าผักที่ปลูกในฟาร์มรักดีสด กรอบ และรสชาติหวาน แถมยังไร้สารพิษอีกด้วย ซึ่งกลยุทธ์ที่ทางคุณเจสได้วางไว้ คือ การเลือกใช้ช่องทางสื่อออนไลน์ในการทำตลาด เรียกลูกค้าให้มาใช้บริการ จากนั้นเมื่อลูกค้าติดใจก็เกิดเป็นการบอกพูดต่อแบบปากต่อปากจนทำให้ฟาร์มรักดีของเรากลายเป็นที่รู้จัก ทำให้ฟาร์มรักดีสามารถสร้างรายได้ครึ่งล้านต่อเดือน