ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ปัญหาหนี้ของภาคครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง บวกกับพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นแบบไม่คิดถึงความเสี่ยง ซึ่งเสี่ยงต่อความเปราะบางของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้ กนง. ยังมีท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ที่มาจาก  พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจช่วงปรับตัวแนวบวก รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มชะลอลงเป็นแรงกดดันรายได้ภาคเกษตรกรในระยะข้างหน้า ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ อาจลุกลามและเสี่ยงที่จะมีการใช้กำลังทางทหาร ดังนั้น การคงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องน่าจะเหมาะสมในการช่วยลดทอนผลกระทบที่ในช่วงนี้ที่เศรษฐกิจไทยกำลังปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยยาวตลอดปี 2560 แม้จะกดดันเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าเป้าหมาย แต่มองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำมากเช่นนี้จะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราว อีกทั้งเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนทั้งภายในและนอกประเทศ นโยบายการลดอัตราดอกเบี้ยจึงอาจยังไม่จำเป็นในปีนี้ เพราะอาจไปกระตุ้นพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ทำให้มีการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเพิ่มความเสี่ยงในตลาดการเงิน