นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญการดำเนินการ ตลาดประชารัฐไทยช่วยไทย เพื่อส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ให้มีตลาดใหม่และส่งเสริมให้ประชาชนมีพื้นที่ค้าขายเพิ่มมากขึ้น โดยขยายผลพื้นที่เดิมและส่งเสิรมผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มประเภทสินค้า อาทิ สินค้าเกษตร โอท็อป SMEs วิสาหกิจชุมชน ร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 6,447 แห่ง โดยสำนักงบประมาณได้มีการตั้งงบประมาณปี 2561-2562 จำนวน 562 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินงาน นายกรัฐมนตรี เห็นว่า เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีรายได้และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก จึงได้ให้กระทรวงมหาดไทยรับเรื่องนี้ไปดำเนินการและหารือหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ได้พิจารณาภายใต้หลักการการบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบประชารัฐ สร้างพื้นที่ให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกันอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้มีการลดต้นทุนทางการตลาดอย่างเหมาะสม ภาคเอกชนมีส่วนร่วมเปิดตลาดประชารัฐคนไทยมีความสุข โดยเฉพาะผู้ค้า Modern Trade ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการรายใหม่ให้แยกจากผู้ประกอบการเดิมอย่างชัดเจนและยกระดับสินค้าประทุกประเภทให้มีคุณภาพมาตรฐานปลอดภัย ตลาดประชารัฐไทยช่วยไทย ประกอบด้วย ตลาดประชารัฐ Green Market ตลาดประชารัฐไทยช่วยไทยยิ้มได้ ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ ตลาดประชารัฐ กทม. คืนความสุข ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ตลาดประชารัฐ Modern Trade ตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. และ ตลาดประชารัฐต้องชม โดยจะเปิดให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมในการจำหน่ายสินค้าสามารถมาลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ตั้งเป้าว่าจะมีผู้มาค้าขายกว่า 120,000 ราย และจะให้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยพื้นที่ตลาดใหม่/ขยายพื้นที่ตลาดเดิมทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้มีรายได้น้อย สินค้าด้านวิสาหกิจชุมชน นายกรัฐมนตรี อยากให้ทดลองทำไปก่อน