นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า

ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ภาพรวมสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวม อยู่ในระดับ 2.97% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ 2.95% มียอดเอ็นพีแอลคงค้าง 4.28 แสนล้านบาท เป็นเอ็นพีแอลของธุรกิจเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกที่เป็นรายย่อยไม่ได้ปรับตัวกับการแข่งขันใหม่ๆ และจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งเอ็นพีแอล เอสเอ็มอี ไตรมาส 3 อยู่ในระดับ 4.63% สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ 4.42%

นอกจากนี้ สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ หรือ เอสเอ็มอี ในไตรมาส 3

อยู่ในระดับที่สูงกว่าไตรมาสก่อนอยู่ที่ 2.72% เป็นสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี 2.96% สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 2.11% และสินเชื่ออุปโภคบริโภค 3.26% ซึ่งมีแนวโน้มด้อยคุณภาพลง ทำให้คาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เอ็นพีแอลจะสูงที่สุดตามคาดการณ์ โดยหวังว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตได้ดีและทำให้เกิดการจ้างงาน ราคาสินค้าเกษตรจะดีขึ้น จึงจะส่งผลให้เอ็นพีแอลลดลงได้ ทั้งนี้ ทาง ธปท.ติดตามเอ็นพีแอลของกลุ่มเอสเอ็มอีอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากกลุ่มการพาณิชย์ ค้าส่ง ค้าปลีก และเอ็นพีแอลที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน credit images | moneyandbanking.co.th