วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2567

ต่อยอดโอกาสการค้ายุค 4.0 กับ ปิ๊บจัง ตัวแทนการใช้จ่ายด้วย QR Code ของ K PLUS SHOP จากกสิกรไทย

by Smart SME, 20 พฤศจิกายน 2560

การใช้จ่าย QR Code กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่เคยลองจ่ายเงินด้วย QR Code ก็มักจะติดใจในความง่าย สะดวกรวดเร็ว ทำให้การใช้จ่ายผ่าน QR Code กลายเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนในยุคนี้ ทำให้ร้านค้าต้องรีบปรับตัวให้ทัน ต้อนรับการค้าขายแบบไร้เงินสด เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายที่จะเปิดกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ร้านค้าที่ต้องการมี QR Code เป็นของตัวเอง ธนาคารกสิกรไทยได้ส่ง ปิ๊บจัง สัญลักษณ์แทน QR Code ของแอปฯ K PLUS SHOP ที่จะมาช่วยให้ร้านค้าซื้อง่ายขายคล่องกว่าเดิม ด้วยการเป็นช่องทางการรับเงินแบบใหม่ที่ใช้ง่าย รวดเร็ว แม้ลูกค้าพกเงินสดมาไม่พอ ก็ยังจ่ายได้ง่ายๆ แค่สแกน QR Code หรือที่เรียกว่า “ยิงปิ๊บ จ่ายปั๊บ” นอกจากนี้ปิ๊บจังยังช่วยลดปัญหากวนใจของพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นการทอนเงินผิด เงินทอนไม่พอ รวมถึงไม่ต้องกังวลว่าลูกค้าจะกดเลขบัญชีหรือเบอร์โทรศัพท์ผิด ที่สำคัญ K PLUS SHOP จะช่วยต่อยอดโอกาสทางการค้าขายได้อย่างมหาศาล เพราะ K PLUS SHOP เป็นแอปฯ ธนาคารเดียวในไทยที่รองรับการใช้จ่ายผ่าน QR Code แบบ 3-in-1 คือ 1) โมบายแบงกิ้งของแบงก์ไทยทุกธนาคารที่รองรับ QR Code มาตรฐาน 2) Alipay 3) WeChat Pay ซึ่ง 2 อย่างหลังเป็นแอปฯ ยอดนิยมของชาวจีน ทำให้ร้านค้าที่ใช้ K PLUS SHOP สามารถรับเงินได้จากทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 9 ล้านคน และมีการใช้จ่ายในไทยสูงถึง 460,000 ล้านบาทในปี 2559 ที่ผ่านมา K PLUS SHOP ไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องการค้าขายเท่านั้น แต่ด้านการบริหารจัดการบัญชีก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพราะ K PLUS SHOP จะแจ้งเตือนทุกครั้งแบบเรียลไทม์เมื่อลูกค้าจ่ายเงิน เมื่อปิดยอดรายวัน เจ้าของร้านก็ไม่ต้องนับเงินว่าครบหรือไม่ เพราะระบบมีรายงานสรุปยอดขายรายวันพร้อมโอนเงินเข้าบัญชีทันทีเมื่อปิดยอด ทำให้เจ้าของร้านค้าบริหารจัดการสต๊อกและบัญชีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

จุดเด่นของ K PLUS SHOP

  • สมัครใช้งานง่าย ไม่ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสมัคร
  • รับเงินได้จาก Mobile Banking ทุกธนาคารและ eWallet ที่รองรับ QR Code มาตรฐาน
  • รองรับการชำระเงินด้วย QR Code ของ Alipay และ WeChat Pay เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการจ่ายเงินของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทย
  • เงินเข้าบัญชีทันทีเมื่อปิดยอดรายวัน มีแจ้งเตือนยอดเงินเข้าทุกครั้ง และมีรายงานสรุปยอดขายทุกวัน

ประโยชน์ที่ร้านค้าได้รับจากการใช้ K PLUS SHOP

  • มีช่องทางการรับชำระเงินเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
  • ไม่เสียเวลาในการจัดการเงินสด ไม่ต้องเตรียมเงินทอน
  • ลดความผิดพลาดจากการทอนเงินผิด หรือกดเลขบัญชี/หมายเลขโทรศัพท์ผิดตอนโอนเงิน
  • ร้านค้าไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการเงินสด ไม่ต้องเตรียมเงินทอน และไม่ต้องนับเงินเมื่อหมดวัน เพราะเงินจะโอนเข้าบัญชีที่ผูกกับ K PLUS SHOP ทันทีเมื่อปิดยอดรายวัน
ร้านค้าที่สนใจใช้บริการ K PLUS SHOP สามารถสมัครได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านแอปฯ K PLUS เพื่อรับ QR Code พร้อมใช้งานได้ทันที รวมถึงรับโปรโมชันพิเศษถึง 2 ต่อ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2560 ดังนี้
  • ต่อที่ 1- รับเงินคืน 300 บาทเมื่อมียอดรับชำระอย่างน้อย 200 บาท 1 รายการ ภายใน 60 วันนับจากวันที่สมัคร สงวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการ
  • ต่อที่ 2- “Member Get Member” รับเงินคืนสูงสุด 5,000 บาท เมื่อแนะนำเพื่อนทางธุรกิจสมัครใช้งาน K PLUS SHOP สงวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม K PLUS SHOP ได้ที่โทร K-Biz Contact Center 02-8888822 Website : www.kasikornbank.com/QR-Paymen

วิธีตรวจสอบยอดขาย

สรุปยอดขายรายชั่วโมง / รายวัน / รายเดือนวิธีใช้งานกับ Alipay / WeChat Pay

  • ลูกค้าชาวจีนเปิด QR Code ของ Alipay หรือ WeChat Pay บนมือถือของตัวเอง
  • ร้านค้าเข้าฟีเจอร์อ่าน QR Code จากในแอปฯ K PLUS SHOP
  • ร้านค้าเลือกว่าจะยิง QR Code ของ Alipay หรือ WeChat Pay
  • ร้านค้าใส่จำนวนเงินที่ต้องการเรียกเก็บเป็นสกุลเงินบาทไทย
  • ร้านค้าใช้แอปฯ K PLUS SHOP สแกนที่ QR Code ของลูกค้าชาวจีน
  • ฝั่งลูกค้าจีนจะปรากฎเงินที่ต้องการเรียกเก็บเป็นเงินหยวน ซึ่งระบบ K PLUS SHOP จะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นกดยืนยันการจ่ายเงิน
  • ร้านค้าได้รับแจ้งเตือนเมื่อการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์
Tag :

Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line