บทความจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก
Whole Foods ห้างชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ซึ่งเน้นจำหน่ายอาหารและวัตถุดิบชั้นดี มีคุณภาพ ได้รวบรวมข้อมูลและประสบการณ์จากฝ่ายจัดซื้อสินค้าจากทั่วโลกรวมทั้งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาความนิยมของผู้บริโภค และได้เปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มอาหารและเครื่องดื่ม 10 ชนิดที่จะเป็นที่นิยมในปี 2561 ดังนี้
- มีกลิ่นดอกไม้ (Floral Flavors)
อาหารและเครื่องดื่มจะมีแนวโน้มของกลิ่นดอกไม้ พฤกษชาติ มีรสชาติหวานอย่างเบาบาง และมีกลิ่นหอมสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของดอกลาเวนเดอร์ กุหลาบ แม้แต่เครื่องดื่มชาร้อนและชาเย็นจะมีกลิ่นของดอกชบาสีชมพู หรือเครื่องดื่มประเภทคอกเทลและเครื่องดื่มประเภทมีฟอง (Bubbly Drink) จะมีกลิ่นกลีบของดอกไม้ Elder flower
- มีผงเสริมพลังงาน (Super Powders)
ซึ่งจะมีบทบาทที่สำคัญต่ออาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นกาแฟลาเต้ เครื่องดื่มสมูทตี้, nutrition bar, ซุป หรือขนมอบขบเคี้ยวต่างๆ จะมีส่วนผสมของชาเขียว, โกโก้, maca root, ผงขมิ้นซึ่งจัดเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นการแพทย์อายุรเวท (Ayurvedic Medicine) หรือ เครื่องดื่มสมูทตี้จะมีผงสาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina) หรือ ผัก Kale หรือสมุนไพรสีเขียวอื่นๆ หรือแม้แต่ผงโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายจะมีส่วนผสมของคอลลาเจนที่ดีต่อเส้นผมและผิวหนัง
- เห็ดเพื่อสุขภาพ (Functional Mushrooms)
ผู้บริโภคหันมาใส่ใจต่อการบริโภคเห็ดประเภท reishi, chaga, cordyceps เพื่อเสริมสุขภาพซึ่งผลิตมาเป็นวิตามินเสริม หรือประเภทเครื่องดื่มสมูทตี้ ชา กาแฟ หรือ ซุป หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหนัง อย่าง สบู่ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม
- อาหารของประเทศตะวันออกกลาง (Feasts from the Middle East)
ในปี 2561 อาหารของประเทศตะวันออกกลางไม่ว่าจากกลุ่มประเทศเปอร์เซียน อิสราเอล โมรอคโค ซีเรีย และเลบานอน จะมีบทบาทต่อการบริโภคในตลาด mainstream อาทิ อาหารประเภท hummus, pita, falafel หรือสมุนไพร harissa, cardamom, za’atar จะมีอยู่ในเมนูอาหาร หรือจานอาหาร shakshuka, grilled halloumi และ lamb รวมทั้งทับทิม มะเขือยาว แตงกวา , parsley, mint, tahini, tomato jam และผลไม้แห้ง
- ผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากข้อมูลของสินค้าอย่างดี (Well-labelled products)
ผู้บริโภคต้องการทราบถึงข้อมูล ที่มาของผลิตภัณฑ์ ความโปร่งใสของฉลาก GMO มาเป็นอันดับหนึ่ง รวมทั้ง Fair Trade Certification, ความรับผิดชอบต่อการผลิต หรือมาตรฐานการคุ้มครองสวัสดิการของสัตว์ (animal welfare standards)
- อาหารที่ทำจากพืชโดยใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์ (High-techplant-based dishes)
เช่น เนื้อปลาทูน่าที่ทำจากมะเขือเทศ หรือเบอร์เกอร์ผักที่ดูคล้ายกับเนื้อ นมจากถั่ว โยเกริตจากถั่ว pili, peas, กล้วย, macadamia nuts, pecans หรือผลิตภัณฑ์อาหารที่ปลอดนม เช่น ไอสครีม บราวนี่ ครีมบูเลย์
- ขนมขบเคี้ยว ของกินเล่นในรูปแบบ Puffed and Popped
Snacks อาทิ popped cassava chips, puffed pasta bow ties, seaweed fava chips, puffed rice clusters
- ทาโก้แบบทางเลือก (Alternative Tacos)
โดยการใช้แผ่นห่อแบบใหม่ๆ แทนแผ่น taco shell แบบดั้งเดิม เช่น แผ่นสาหร่าย seaweed
- การใช้ทุกชิ้นส่วนของวัตถุดิบตั้งแต่รากจนถึงก้าน (Root-to-stem cooking)
เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของผักและผลไม้ในการปรุงอาหารและเป็นการช่วยลดขยะเหลือทิ้ง
- เครื่องดื่มประเภท Bubble ไม่ผสมแอลกอฮอล์และมีส่วนผสมจากพืช (Plant-Derived)
เช่น Sap ซึ่งทำจาก maple และ birch