ปลัดแรงงานแจง ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทุกจังหวัดไม่เท่ากัน วานนี้ (20 ธ.ค. 60) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นำโดย นายสาวิทย์ แก้วหวานประธาน คสรท. นายชาลี ลอยสูง รองประธาน คสรท. เข้าพบพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว. แรงงาน เพื่อหารือการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยนายชาลี กล่าวระหว่างหารือว่า ตนอยากให้มีการยกเลิกระบบการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ และต้องแก้กฎหมายโดยกำหนดให้แรงงานที่ทำงานครบ 1 ปี จะต้องได้รับการปรับขึ้นค่าแรง ทั้งนี้สาเหตุที่เราต้องมาเรียกร้องเพราะนายจ้าง ผู้ประกอบการบางคนไม่ยอมปรับขึ้นค่าจ้าง ดังนั้นมองว่าจะต้องมีการปรับนโยบายเพื่อให้แรงงานหลุดพ้นจากการกำหนดขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งนี้พบว่าก่อนประกาศขึ้นค่าแรงบรรดาแม่ค้า พ่อค้า ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าไว้รอก่อนหน้าแล้ว ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว. แรงงาน กล่าวภายหลังการหารือว่าการปรับขึ้นค่าจ้างว่า เรื่องดังกล่าวนี้ เป็นส่วนของคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ซึ่งมีนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน ซึ่งเกียวข้องกับเกี่ยวกับหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนภาคอุตสาหกรรม และกระทรวงแรงงาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา ส่วนข้อเสนอที่ทาง คสรท. สรส. เสนอมานั้นตนจะรับเป็นหลักการไว้ ทั้งนี้รัฐบาลต้องพิจารณาถึงการให้แรงงานสามารถอยู่ได้ และต้องมองถึงเรื่องของธุรกิจด้วย ส่วนข้อเสนอที่จะให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างเท่ากันทุกจังหวัดทั่วประเทศนั้น ตนก็รับไว้เป็นหลักการเพื่อให้ทางบอร์ดค่าจ้างใช้พิจารณาอย่างรอบคอบ และมีเหตุผล ซึ่งเราจำเป็นต้องฟังเสียงของทุกด้าน เพื่อให้เกิดความสมดุล ทั้งนี้อัตราการขึ้นจะเท่ากันทุกพื้นที่ หรือขึ้นพื้นที่ใดก่อนจะต้องมีการพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมและขอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง ขณะที่ นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างว่า การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างนั้น เราไม่ต้องการให้ขาดใคร เพราะถ้าขาดใครไปสักคนเกิดมีอะไรขึ้นมา จะบอกว่าไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้เข้าประชุม ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี ดังนั้นจึงรอให้มีความแน่นอนก่อนจัดประชุม ทั้งนี้ไม่มีทางที่จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเท่ากันทุกจังหวัดได้ ซึ่งดูตามตัวเลขเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งดัชนีผู้บริโภคก็ไม่ตรงกัน เห็นได้ว่าถ้าครองชีพแต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน อย่าง กทม. กับแม่ฮ่องสอน ค่าครองชีพคนละเรื่องกันเลย แต่เมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต พังงา กระบี่ อาจจะสามารถขึ้นได้เท่ากัน แต่ทั้งนี้คาดว่าทุกจังหวัดจะได้ขึ้นหมด แต่ก็ขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการค่าจ้างในแต่ละจังหวัดว่าเสนอมาอย่างไร เพื่อให้คณะกรรมการค่าจ้างกลางพิจารณาว่าสิ่งที่เสนอมาสมเหตุ สมผลหรือไม่ ทั้งนี้น่าจะทันในเดือนธ.ค. เพราะอย่างน้อยจะต้องได้อัตราค่าจ้างใหม่แล้ว