วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

ตลาดผู้สูงวัยมาแรง SME ไทยอยากรวยต้องปรับ

by Smart SME, 25 เมษายน 2561

ในยุคที่สังคม ผู้สูงอายุ เติบโตทุกมุมโลกจนถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีแรงผลักดันการเติบโตทางธุรกิจไม่น้อยไปกว่ากลุ่มวัยรุ่นส่งผลให้บรรดาธุรกิจหลายๆ ธุรกิจต่างก็ตระหนักและเริ่มมีการปรับตัว เพื่อให้สินค้าและบริการสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรดังกล่าวนี้เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Societies)แล้วตั้งแต่ปี 2548 และกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged Societies) ภายในปี 2567 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า จากงานวิจัยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ของไทยจะเจาะตลาดผู้สูงอายุได้นั้นสิ่งสำคัญแรกคือ ผู้ประกอบการจำ เป็นต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้สินค้าและบริการของผู้สูงอายุก่อนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้พัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว โดยจะต้องเน้นคุณภาพและมาตรฐาน มีการออกแบบหรือดีไซน์มาให้สามารถใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เพราะหากสินค้ามีความยุ่งยากหรือซับซ้อนในการใช้งานมากเกินไป และข้อพึงระวังคือ แม้ว่าจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร แต่จำนวนผู้สูงอายุไทยส่วนใหญ่ยังมีกำลังซื้อหรือมีรายได้ที่ไม่สูงนักเฉลี่ยประมาณ 20,000-40,000 บาทต่อปี2 ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 3 แสนบาทขึ้นไปต่อปี (ยังไม่รวมรายได้ส่วนตัวของลูกหลาน) คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 4.0 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมด ดังนั้น หากสินค้าและบริการที่เจาะตลาดผู้สูงอายุมีราคาที่สูงมากเกินไป ก็อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือใช้บริการของผู้สูงอายุได้ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการ SME ไทย อาจจะเผชิญความท้าทายในการแข่งขันกับสินค้าที่นำ เข้าจากประเทศคู่แข่งที่สำคัญ โดยเฉพาะจีน ซึ่งเน้นแข่งขันทางด้านราคา และญี่ปุ่น ซึ่งเน้นการแข่งขันทางด้านนวัตกรรมและฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและสะดวก รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ในประเทศที่เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและมีการปรับตัวเช่นกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ การคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้สูงอายุ รวมถึงมีราคาที่เหมาะสม จึงเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญในการเจาะตลาดผู้สูงอาย การเจาะตลาดผู้สูงอายุอาจจะไม่ได้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้สูงอายุโดยตรงเพียงอย่างเดียว (B2C) แต่ยังหมายถึงโอกาสในการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาคธุรกิจที่สำคัญ(B2B) ด้วย เช่น กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล/คลินิกรักษาพยาบาล ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่มีการปรับตัวรับกับการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว นอกจากจะให้ความสำคัญกับตลาดผู้สูงอายุในไทยแล้วยังต้องคำนึงถึงผู้สูงอายุชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพำนักและท่องเที่ยวในประเทศไทยซึ่งปัจจุบัน มีผู้สูงอายุจากต่างประเทศที่ถือวีซ่าพำนักระยะยาวในไทยประมาณ 68,000 คน รวมถึงโอกาสในการขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียนได้ด้วย สำหรับกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจสามารถแบ่งเป็น 5 ธุรกิจ ดังนี้
  1. ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ กลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ  โดยความต้องการของผู้สูงอายุ คือ อาหารที่มีไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล น้ำตาลน้อยหรือไม่มีเลย และมีส่วนประกอบที่ป้องกัน ลดความเสี่ยงโรค
  2. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ หมายรวมถึง วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ ตัวอย่างเช่น เตียงนอนที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ เก้าอี้ไม้ที่มีพนักพิง เป็นต้น
  3. ธุรกิจเกี่ยวกับความงาม แม้ว่าจะเข้าสู่วัยสูงอายุแล้ว แต่ก็ยังอยากดูแลตัวเองให้ดีอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเครื่องแต่งกาย รวมถึงเครื่องสำอางประเภทออร์แกนิกที่ผลิตมาจากธรรมชาติ
  4. ธุรกิจบริการสุขภาพ กลุ่มผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย ไม่สามารถดูแลตนเองได้มีเยอะพอสมควร ซึ่งต้องมองหาสถานบริการให้มาดูแลตามที่อยู่อาศัย โดยการบริการต้องมีคุณภาพ ผู้ประกอบการต้องคัดกรองบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีจิตเมตตา รักในงานบริการ
  5. ธุรกิจนำเที่ยวผู้สูงวัย กลุ่มผู้สูงอายุยังต้องการสังคมเพื่อพบปะเพื่อนฝูงร่วมพูดคุยสังสรรค์กัน หลังจากตรากตรำทำงานมาอย่างหนักตลอดเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นการจัดทริปไปเที่ยวถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ ผู้สูงอายุจะมีรสนิยมท่องเที่ยวในเชิงศิลปวัฒนธรรม ทำบุญไหว้พระ ตักบาตร ฟังเทศน์ ตามวัดวาอารามต่างๆ สวดมนต์ ก็เป็นที่นิยมมากในยุคนี้
ทั้งนี้ การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็อาจจะทำ ให้พฤติกรรมของผู้สูงอายุเปลี่ยนแปลงไป ประเภทหรือลักษณะของสินค้าและบริการที่ต้องการก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการควรที่จะมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ   ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line