สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ คือ การมียอดขายที่ดีการทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายได้นั้น มาจากหลายปัจจัย ซึ่งผู้ประกอบการ SME อาจจะยังไม่มีความเข้าใจมากเพียงพอ หรือ อาจไปมุ่งเน้นด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป แต่บางที เทคนิคเพิ่มยอดขาย ที่ผู้ประกอบการอาจจะลืมกันไป ก็เป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ได้เช่นกัน

ดังนั้นมาดุ 6 เทคนิคเพิ่มยอดขาย ทะลุเป้ากัน

1.สร้างความแปลกใหม่หรือมีสิ่งใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดมักตื่นเต้นฮือฮากับความแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการอยากแจ้งเกิดให้ธุรกิจ ต้องพยายามเป็นที่ 1 ให้ได้ ซึ่งการจะมีไอเดียความคิดใหม่ ผู้ประกอบการต้องหมั่นติดตามข่าวสาร หรือ เทรนด์ต่างๆ ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะเป็นคนที่คอยเปิดหูเปิดตาเอาไว้เสมอ เพราะโอกาสลอยอยู่ในอากาศ แต่อยู่ที่ใครจะคว้ามาเปลี่ยนเป็นเงินได้เร็วกว่ากัน

2.สร้างจุดยืนหรือสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ  ผู้ประกอบการควรมองหาเทรนด์ที่ยั่งยืน เพราะจะทำให้ธุรกิจไปต่อได้อีกไกล ถึงแม้ผู้ประกอบการจะสามารถเป็นเจ้าแรกที่นำเสนอความแปลกใหม่ให้แก่ตลาดผู้บริโภคได้ แต่หากสินค้าและบริการนั้นเป็นแค่เทรนด์ที่หวือหวาไม่ยั่งยืน สินค้าและบริการของคุณก็จะดังเปรี้ยงแค่ชั่วเวลาข้ามคืนแล้วก็จางหายไป ดังนั้นการจะจับธุรกิจอะไรนั้น ความอมตะหรือความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงด้วย ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้เช่นกัน

3.มีความเชี่ยวชาญเป็นตัวจริงในธุรกิจนั้นๆ สิ่งหนึ่งที่จะสามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องมีความเชี่ยวชาญรู้ลึกรู้จริงในธุรกิจนั้น ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าผู้ประกอบการรู้น้อยกว่าพนักงาน ก็อาจเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตได้ หรือ หากรู้ในธุรกิจของตัวเองไม่มากพอ ผู้บริโภคย่อมไม่เชื่อถือ และอาจผลทำให้คุณภาพของสินค้าและภาพลักษณ์ในสายตาลูกค้าดูไม่ดี ซึ่งนอกจากรู้จริงในธุรกิจแล้ว คำว่ารู้ให้ลึกนั้นยังต้องรวมไปถึงการรู้จักแหล่งวัตถุดิบและธรรมชาติของวัตถุดิบด้วย ยกตัวอย่างเช่น แมลงอบกรอบไฮโซ ที่เจ้าของแบรนด์นอกจากจะรู้ว่าแมลงชนิดใดที่มีรสชาตอร่อยแล้ว ยังรู้ว่าแมลงที่เป็นวัตถุดิบนั้นต้องมีวิธีการเลี้ยงอย่างไร สามารถให้ผลผลิตเพียงพอต่อการทำเป็นอุตสาหกรรมหรือไม่ หรือจะต้องนำเข้าวัตถุดิบจากที่ใด เป็นต้น

4.ไม่ลดแลกแจกแถมมากเกินไป ไม่ต้องฮาร์ดเซล กลยุทธ์ใช้ดีต้องบอกต่อยังคงใช้ได้ผลอยู่เสมอ เพราะ ในความรู้สึกของผู้บริโภคก็ยังคงเชื่อถือคำพูดของคนใกล้ตัวที่ได้มีการลองใช้สินค้าและบริการนั้นจริงๆ มากกว่าคำโฆษณาจากตัวแบรนด์สินค้าเอง เช่น อายไลเนอร์ของแบรนด์คอสลุคที่ผู้บริโภคได้ลองใช้แล้วดีจริงจนต้องบอกต่อๆ กันจนกลายเป็นที่ต้องการของสาวไทยทั่วประเทศ ดันยอดขายพุ่งจนแบรนด์ติดลมบนนำไปสู่การต่อยอดสินค้าตัวใหม่ๆ ตามมาอีกมาก เห็นแล้วใช่ไหมว่าของดีไม่ต้องพูดเยอะ สินค้าก็สามารถขายตัวเองได้

5.ขายคนเดียวรวยช้า การใช้คุณสมบัติของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีทั้งผู้บริโภค ผู้ค้าอยู่ในนั้น ซึ่งการขยายธุรกิจที่เร็วที่สุดคือ นอกจากจะขายเองแล้วควรหาตัวแทนที่สนใจขายสินค้าของเราด้วยเพราะเท่ากับเราเพิ่มสาขาหรือสถานที่ขายสินค้า โดย เป็นการต่อยอดจากการขายแบบ B2C (ธุรกิจกับลูกค้า) ไปสู่การขายแบบ B2B (ธุรกิจกับธุรกิจ) เพราะจะทำให้สามารถเพิ่มยอดขายแบบก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็ว

6.ให้มากกว่าที่ลูกค้าต้องการ ความใส่ใจจากแบรนด์สินค้า และ บริการคือเคล็ดลับครองใจผู้บริโภคทุกยุคทุกสมัย จะเห็นได้ว่าไม่ว่าสินค้าและบริการนั้นจะดีเลิศเลอแค่ไหน ถ้าไม่ใส่ใจลูกค้าหรือผู้บริโภค สินค้าและบริการนั้นจะไม่สามารถรักษาธุรกิจให้ยั่งยืนได้เลย ยิ่งในยุคผู้บริโภคมีกระบอกเสียงผ่านโลกโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว หากผู้ประกอบการไม่แคร์เสียงสะท้อนจากผู้บริโภคก็คงจะอยู่ได้ยาก เรียบเรียงจาก www.kasikornbank.com