วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

6 วิธี การสร้างแรงจูงใจ ให้ตัวเองในเวลาที่คุณรู้สึกท้อแท้หรือหมดหวัง

by Smart SME, 17 พฤษภาคม 2561

หากคุณรู้สึกว่าคุณ ท้อ และ อยากปล่อยมือจากทุกสิ่งอย่างที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ คุณคิดผิด!! เพราะ แม้แต่คนที่มีความพยายาม และ มีแรงกระตุ้นสูง ก็ย่อมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเสมอ บ่อยครั้งที่เราหาสาเหตุไม่เจอว่าทำไมเราถึงรู้สึกท้อแท้แบบนี้ แต่มันก็มีวิธีที่จะทำให้ความรู้สึกท้อแท้เหล่านั้นหายไปได้ พร้อมทั้งช่วยให้คุณกลับมามีกำลังใจได้ใหม่อีกครั้งกับ 6 วิธี การสร้างแรงจูงใจ ให้กับคุณ ในเวลาที่คุณรู้สึกท้อแท้หรือหมดหวัง

1. พยายามหาสาเหตุว่าทำไมคุณถึงท้อแท้ 

และนี่ก็คือตัวอย่างสาเหตุที่อาจทำให้คุณรู้สึกท้อ จงลองหาสาเหตุของตัวเองให้พบ คุณกลัวบางสิ่งบางอย่างที่คุณต้องทำ และคุณผัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อย เพราะคุณไม่ได้ทำมันด้วยความเต็มใจตั้งแต่แรก คุณอาจจะเหนื่อย อาจขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนหรือออกกำลังกายไม่เพียงพอ หรืออาจจะป่วยก็ได้ ซึ่งทำให้คุณรู้สึกไม่โอเคนักคุณขาดความมั่นใจในตนเอง คุณกลัวที่จะก้าวขาออกจากพื้นที่สุขสบายของคุณ คุณกำลังอยู่ระหว่างการทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งมันอยู่ในช่วงที่ยากที่สุด จนทำให้คุณท้อใจ

2. เวลาที่คุณกลัวบางสิ่งที่ต้องทำ จงพยายามทำต่อให้สำเร็จ 

อย่างเช่นเรื่องใก้ลๆตัวเลย   การออกกำลังกายในตอนเช้า ถ้าคุณมองว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ คุณก็ต้องหาวิธีที่จะทำมันให้สำเร็จ โดยอาจลองจะพยายามวางชุดออกกำลังกายไว้ข้างเตียงเพื่อที่ตื่นมาจะได้เห็นมันเป็นสิ่งแรก หรือไม่ก็โทรนัดเพื่อนให้ไปเจอกันที่โรงยิมเพื่อที่จะได้ไปออกกำลังกายกัน การมีเพื่อนที่มีความรับผิดชอบจะช่วยสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ทำให้แผนการของคุณสำเร็จได้เป็นอย่างดี

3. ถ้าร่างกายคุณเหน็ดเหนื่อย คุณควรดูแลสุขภาพ 

ร่างกายเป็นกลไกสำคัญในการทำสิ่งต่างๆ แต่ในบางวันร่างกายของคุณเพียงแค่ต้องการให้คุณลุกออกจากโต๊ะทำงาน แล้วออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง ลองนึกถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของคุณ คุณพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่า? คุณรับประทานอาหารที่มีประโยชน์บ้างไหม? ครั้งล่าสุดนี้คุณป่วยเป็นอะไรจึงทำให้คุณรู้สึกแย่จนถึงตอนนี้?ลองสังเกตดูว่า คุณดูแลสุขภาพและร่างกายคุณดีพอหรือยัง การดูแลร่างกายให้ดีจะช่วยให้คุณหายจากอาการท้อแท้ที่เป็นอยู่ได้

3. เมื่อคุณขาดความมั่นใจ ลองหาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเป็นแบบนั้น 

คุณกำลังคิดในแง่ลบอยู่หรือเปล่า? มีคอมเม้นต์แง่ลบหรือพบเจอเหตุการณ์แย่ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกแย่จนถึงตอนนี้ไหม? คุณชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือไม่? หากคุณกำลังมองทุกอย่างในแง่ลบ คุณควรปล่อยวาง คิดบวก แล้วหันมาชื่นชมตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง หรือไม่ก็หาอะไรสนุกๆ ทำ เพื่อให้ชีวิตคุณมีความสุขได้แล้ว

4. เดินมาได้ครึ่งทางแล้ว จงพยายามต่อไปให้สุด

เมื่อใดที่คุณตั้งมั่นทำงานใหญ่ๆ สักงาน ในช่วงแรกๆ คุณมักมีแรงกระตุ้นที่ดีเสมอ เส้นชัยของคุณจะดูชัดมาก คุณมีความคาดหวังและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ส่วนในช่วงสุดท้ายของงานก็ง่ายที่จะเกิดแรงกระตุ้นด้วยเช่นกัน เมื่อคุณเริ่มมองเห็นปลายทาง คุณก็จะรู้สึกตื่นเต้นและอยากทำมันให้เสร็จโดยเร็ว แต่ช่วงระหว่างทางนี่สิที่ยากที่สุด แรงกระตุ้นในช่วงแรกก็จะค่อยๆ หายไป และก็ดูเหมือนว่าเส้นชัยจะไกลออกไปเรื่อยๆ คุณควรคิดอยู่เสมอว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณริเริ่มสิ่งนั้นขึ้นมา? แล้วทำไมสิ่งนั้นถึงมีความหมายสำหรับคุณ? หลายครั้ง การระลึกได้ว่า “ทำไม?” จะสามารถช่วยกระตุ้นให้คุณเลิกรู้สึกท้อแท้และหมดหวังได้“ไม่สำคัญว่าคุณจะก้าวไปอย่างช้าๆ ตราบใดที่คุณไม่ยอมหยุด คุณก็ยังมีหวัง” ― ขงจื้อ (CONFUCIUS)

5. จงจำเอาไว้ว่าอาการท้อแท้ หมดหวัง จะไม่มีทางอยู่กับคุณตลอดไป 

ความพยายามมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของคุณเสมอ เส้นทางความสำเร็จเป็นเหมือนการผจญภัยในถนนที่เต็มไปด้วยหนทางคดเคี้ยวและขรุขระ ซึ่งมันไม่ได้เป็นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ใคร ๆ คิด แต่ทุกก้าวที่คุณกล้าเดินไปนั้น จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและทำมันได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้คุณเดินหน้าต่อไปและขับไล่อาการแย่ๆ เหล่านั้นออกไปได้ ทุกครั้งที่คุณตั้งเป้าหมาย คุณจะต้องพบเจอกับอุปสรรค และอุปสรรคเหล่านั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกท้อแท้ ไร้แรงกระตุ้น แต่ การผลักดันตัวเองให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้และพยายามเอาตัวเองออกจากความรู้สึกนั้น ล้วนช่วยให้คุณมีความมั่นใจและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้มากขึ้น

 

ที่มา : sumrej บทความเพิ่มเติม


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line