นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินโครงการ Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com ว่า ขณะนี้ มีสินค้าจากผู้ประกอบการไทยเข้าไปขายในเว็บไซต์แล้วรวม 35 รายการสินค้า ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ขายสินค้าข้าวและเป็นสมาชิกเว็บไซต์ Thaitrade.com

โดยตั้งแต่เปิดทำการขายบน Thai Rice Flagship Store มีการสั่งซื้อรวมกว่า 165,200 ครั้ง ขายได้แล้วกว่า 1,219 ตัน มูลค่าประมาณ 85.25 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561) และกำลังจะผลักดันให้มีจำนวนรายการสินค้าเข้าไปขายใน Thai Rice Flagship Store เพิ่มขึ้นเป็น 60 รายการสินค้าในเดือน ก.ค.นี้ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดโปรโมชั่นออนไลน์บน Thai Rice Flagship Store ร่วมกับ Tmall.com เพื่อส่งเสริมการขายข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวของไทย ซึ่งเพียงวันเดียวสามารถขายได้ทันที 443 ตัน มูลค่ากว่า 32 ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมโปรโมตสินค้าข้าวไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จในการเปิดจำหน่ายทุเรียนล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17-19 เม.ย.2561 สามารถขายได้ถึง 1.3 แสนลูก หรือ 350 ตัน มูลค่า 70 ล้านบาทมาแล้ว ส่วนการผลักดันลำไยไทยเข้าไปขายใน Tmall.com กรมฯ ได้มีการติดตามความคืบหน้าการขายลำไยของ บริษัท มาตา จำกัด และสหกรณ์จอมทอง ที่ได้มีการตกลงกับทาง Tmall.com ก่อนหน้านี้ ที่จะสั่งซื้อลำไยของไทยมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อนำไปจำหน่ายในเว็บไซต์ และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับ Tmall.com เพื่อส่งเสริมผลไม้อื่นๆ ของไทยเข้าไปจำหน่าย เช่น มังคุด มะม่วง มะพร้าว น้อยหน่า เงาะ เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่าง Tmall.com กับเกษตรกรไทย ผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาค เพื่อคัดเลือกสินค้าเพิ่มเติมเข้าโครงการ Thai Rice Flagship Store รวมถึงการผลักดันสินค้าไทยที่มีศักยภาพอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สินค้าแฟชั่น และชุดชั้นในสตรี เข้าไปจำหน่ายใน Tmall.com เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store และข้าว กข 43 ในตลาดจีน ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2561 เพื่อโปรโมตข้าวไทยและข้าว กข 43 ซึ่งเป็นข้าวชนิดใหม่ที่เหมาะสำหรับการบริโภคของกลุ่มคนรักสุขภาพ ขณะเดียวกันจะติดตามขอข้อมูลและระบบรายงานผลการซื้อขายแบบ Real Time บน Thai Rice Flagship Store เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากอาลีบาบามาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้าไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในทุกช่องทางการตลาด ข่าว SME อื่น คลิก