ยอดขายของหมากฝรั่งในประเทศญี่ปุ่นปี 2017 พบว่าลดลงมาเหลือเพียง ร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับยอดขายเมื่อ 10 ปีก่อน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าความนิยมในการเคี้ยวหมากฝรั่งของคนญี่ปุ่นลดลงไปเกือบครึ่งในระยะเวลาเพียง 10 ปีที่ผ่านมา นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าบางทีหมากฝรั่งอาจจะกำลังถูก Disrupt จากบางอย่างอยู่ก็ได้ ดัชนีชี้วัดง่ายๆ ที่สังเกตได้ด้วยตาเปล่าก็คือลำดับการจัดวางสินค้าบนชั้นวางของ ในญี่ปุ่นพบว่าเจลลี ลูกอม และชอคโกแลตถูกวางไว้ด้านบนของชั้นวางเรียงลงมาตามลำดับ ส่วนหมากฝรั่งถูกวางอยู่ชั้นล่างสุดไปแล้ว นี่เป็นการบ่งบอกแล้วว่า หมากฝรั่งไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือตอนนี้กาแฟ 100 เยนมีให้เลือกดื่มเต็มเมือง จากเดิมที่เคยใช้หมากฝรั่งเป็นตัวช่วยแก้ง่วง ก็ถูกทดแทนด้วยกาแฟไปเกือบหมด เท่านั้นยังไม่พอทุกวันนี้ทุกคนมีสมาร์ทโฟนติดตัวกันทั้งนั้น ทำให้เดิมที่เคยเคี้ยวหมากฝรั่งยากว่างแก้เบื่อ ก็กลายเป็นเล่นสมาร์ทโฟนแทน และอีกข้อสนับสนุนคือเรื่องของวัย พบว่าบางทีหมากฝรั่งคงจะเป็นของคนในยุคเบบี้บูม หรือคนที่อยู่เติบโดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทุกวันนี้คนเหล่านี้ได้กลายเป็นคนสูงวัยหมดแล้ว และเลิกเคี้ยวหมากฝรั่งกันไปแล้วนั่นเอง