บสย.พร้อมขานรับดีมานด์  SME จ่อคิวรอเงินกู้  หลังเปิดใช้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME ทวีทรัพย์ (PGS7) วงเงินค้ำฯ 150,000 ล้านบาท  โดยเริ่มแรกมี 7 ธนาคารร่วมโครงการ พบยอดค้ำฯ วงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาทในกลุ่ม SME รายเล็กมาแรง ขณะที่โครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยสร้างอาชีพ วงเงินค้ำฯ 15,000 ล้านบาท มี  3 ธนาคารร่วมโครงการ นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าการขอใช้วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ บสย.ของธนาคารและผู้ประกอบการ SME มีสัญญาณที่ดี  โดยขณะนี้มี 7ธนาคารเข้าร่วมโครงการ และได้เริ่มส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อ  รวมกว่า  250 ราย วงเงิน 700 ล้านบาท ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME ทวีทรัพย์ (PGS7) โดยเป็นกลุ่มผู้ประกอบการนิติบุคคลบัญชีเล่มเดียว  จำนวน  35 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติ กลุ่ม SME ทั่วไป จำนวน  42 ราย อนุมัติแล้ว 17 ราย และกลุ่ม SME รายเล็ก จำนวน 153 ราย วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อราย อนุมัติแล้ว 58 ราย  ผ่าน 7 ธนาคารที่ร่วมโครงการ ได้แก่ 1.ธนาคารทหารไทย 2.ธนาคารกสิกรไทย 3.ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 5.ธนาคารทิสโก้ 6.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย 7.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ด้านโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยสร้างอาชีพ (MICRO3) วงเงินค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย ได้รับการตอบรับจากธนาคารขอเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 3 ธนาคาร ได้แก่ 1.ธนาคารทิสโก้ 2.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 3.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย  ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME รายย่อยที่ต้องการวงเงินสินเชื่อไม่สูงมาก มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อภายใต้โครงการดังกล่าว สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายและแผนงานของ บสย.