วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

Facebook Watch ไม่ได้มาแข่งกับ Netflix และ YouTube นะ จะบอกให้

by Smart SME, 4 กันยายน 2561

หลายคนอาจจะเข้าใจว่า Facebook Watch มาช้ามากสำหรับตลาดวิดีโอสตรีมมิ่ง แต่ก็ได้รับคำยืนยันว่างานนี้ไม่ได้มาแข่งกับ Netflix และ YouTube เรามีแนวทางของเรา และเราจะสร้างรูปแบบของการดูวิดีโอแบบใหม่ เราจะเน้นการดูเป็นกลุ่มพร้อมๆ กัน แล้วโต้ตอบกันได้เป็นหลัก การดูวิดีโอมีอยู่ในสังคมของเรามานานแล้ว มีมาก่อนที่เราจะมีอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำไป

ทุกคนต่างก็เฝ้ารอดูเนื้อหาและเรื่องราวเดียวกัน เพื่อที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในห้องครัวของที่ทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้น นั่นคือความท้าทายใหม่่ของ Facebook ที่ไม่ใช่การทำเพื่อเลียนแบบ Netflix หรือ YouTube เราต้องการให้ผู้คนได้ดูรายการด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาจะอยู่คนละที่ และดูจากโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ส่วนตัวใดๆ ก็ตาม และที่สำคัญไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้เช้า หรือต้องสลับไปคุยกันบนแอปฯ ตัวอื่นให้เสียเวลา เราสามารถทำได้เพราะเพื่อนของคุณอยู่ในเฟซบุ๊กอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะนัดกันเพื่อดูอะไรสักอย่างพร้อมกัน แล้วก็เมาท์กันสดๆตรงนั้นเลย มันจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการดูวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตไปเลย เพราะนี่ไม่ใช่การดูแบบ passive ที่คนดูต้องนั่งดูอย่างเดียวอีกต่อไป

คุณสามารถคุยกับเจ้าของรายการ ดารา หรือใครก็ตามที่คุณกำลังดูรายการของเขาอยู่ได้เลย ไม่ต้องสลับหน้าจอ ไม่ต้องเปลี่ยนแอปฯ ก็ในเมื่อเราทุกคนอยู่ใน Facebook กันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเรื่องของค่าตอบแทนสำหรับ นักสร้าง Content นั้น ในเบื้องต้นมีการเชิญชวนให้นักสร้าง content เข้าร่วมด้วยสัดส่วนแบบ 55:45 โดยเจ้าของ content รับไป 55% นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้นยังไม่เดินเรื่องเต็มรูปแบบ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา Facebook ก็ได้ออกไปติดต่อกับเจ้าของ content ต่างๆ ทั่วโลกอยู่ไม่ใช่น้อย คนอินเดียจะได้ดู La Liga สเปน ทุกนัด ปีหน้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในไทยก็อยู่ในมือเฟซบุ๊กเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานต่อจากนี้ โลกการดูวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตของเรากำลังจะเปลี่ยนไป จับตาดูเรื่องนี้ให้ดี www.cnbc.com


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line