1 ต.ค.61 สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ พิจารณาคำร้องขอคุ้มครองฉุกเฉินชั่วคราวผู้ประกอบการรถตู้ หลังยื่นฟ้อง กรมขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอขยายเวลาวิ่งต่ออีก 5 ปี หลังหมดอายุใช้งาน 10 ปี เพื่อรอให้รถไฟฟ้าเสร็จทุกสาย และให้หยุดบังคับรถตู้เปลี่ยนเป็นมินิบัส โดยให้เปลี่ยนโดยสมัครใจแทน

ศาลปกครองกลาง ไต่สวนคำร้องของผู้ประกอบการคนขับรถตู้ทั่วประเทศไทยจำนวน 731 คน เพื่อขอให้วิ่งต่อได้ หลังหมดอายุ 10 ปี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ยังฟังไม่ได้ว่ามีเหตุฉุกเฉินเพียงพอตามคำร้อง จึงยกคำร้องดังกล่าว นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการรถตู้ มายังศาลปกครองกลาง เพื่อติดตามความคืบหน้าและรับฟังคำสั่งศาลหลังได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอไต่สวนฉุกเฉินขอการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา จากกรณี คำสั่งของกรมการขนส่งทางบกระบุไว้ว่า รถตู้ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีขึ้นไปต้องหยุดให้บริการ ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนผู้ใช้บริการต่างได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก จึงขอยืดเวลาใช้งานจาก 10 ปี เป็น 15 ปี และขอให้ยกเลิกการบังคับให้รถตู้หมวด 2 เปลี่ยนเป็นรถมินิบัส แต่ขอให้เป็นการเปลี่ยนด้วยความสมัครใจแทน เพราะรถมินิบัสมีราคาสูงกว่ารถตู้หลายเท่า ชาวรถตู้ส่วนใหญ่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะเปลี่ยนรถได้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กำหนดนโยบายหรือมาตรการดังกล่าวไม่สะท้อนการแก้ไขที่เหมาะสม แต่กลับเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิตและจำหน่ายรถมินิบัส หากเปลี่ยนเทียบกับรถที่ กรมการขนส่งทางบกควบคุมดูแล เช่น รถ ขสมก. บขส. ที่มีสภาพเก่ากว่ารถตู้ไม่รู้กี่เท่า อายุการใช้งานบางคันไม่ต่ำกว่า 20 ปี แต่กลับไม่ยุติการให้บริการ หรือรถตู้ชนิดอื่นๆ ไม่ว่ารถพยาบาล รถรับส่งนักเรียน ที่อายุการใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ก็ยังสามารถวิ่งให้บริการได้ ด้านศาลปกครองมีหนังสือแจ้งว่า ศาลพิจารณาคำขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการหรือวิธีการอย่างใดชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษาในคดีนี้ของนายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกรวม 731 คนแล้ว เห็นว่ากรณีดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่ามีเหตุฉุกเฉินตามคำร้อง ศาลจึงมีคำสั่งยกคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน แต่ศาลจะยังพิจารณาคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อไป ข่าวอื่นๆ คลิก