วันเสาร์, เมษายน 27, 2567

10 บริษัทที่คนไทยอยากเข้าทำงานด้วยมากที่สุด

by Smart SME, 25 กันยายน 2561

สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน เมื่อเรียนจบ และก้าวเข้าสู่สายอาชีพ พวกเขาต่างคาดหวังว่าจะได้ทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงของประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต มีสวัสดิการที่ดี ยกระดับคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น ในเรื่องนี้บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเว็บไซต์หางานชั้นนำของอาเซียน ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง โดยแบ่งตามช่วงอายุคน ได้แก่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 7, อายุระหว่าง 34-49 ปี ร้อยละ 49, อายุระหว่าง 26-33 ปี และอายุระหว่าง 18-25 ปี ร้อยละ 16 โดย 10 บริษัทที่คนไทยอยากเข้าทำงานด้วยมากที่สุด มีดังต่อไปนี้ อันดับที่ 1 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อันดับที่ 2 บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) อันดับที่ 3 บริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด อันดับที่ 4 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อันดับที่ 5 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) อันดับที่ 6 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) อันดับที่ 7 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) อันดับที่ 8 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อันดับที่ 9 บริษัท ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย จำกัด อันดับที่ 10 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โดยกลุ่มตัวอย่างที่ทำแบบสำรวจเหตุผลที่อยากร่วมทำงานกับบริษัทชั้นนำเหล่านี้ มาจากปัจจัยสนับ คือ การเติบโตในอาชีพและความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ที่มีคะแนนเฉลี่ย 6.40, ความมั่นคงในหน้าที่การงาน คะแนนเฉลี่ย 6.31 และวัฒนธรรมองค์กร สภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ คะแนนเฉลี่ย 6.24 ที่มา: JobsDB  

Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line