ปิด “อ่าวมาหยา” ทำเกาะพีพีร้าง บรรยากาศท่องเที่ยวสุดเหงา ผู้ประกอบการวอนกรมอุทยานฯ ทบทวนเรื่องนี้ใหม่

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลบริเวณเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยเฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเลไม่คึกคักเหมือนปกติ นักท่องเที่ยวลดน้อยลง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน โดยตามชายหาดต่างๆ รอบเกาะพีพี จากเดิมที่มีเรือทัวร์อยู่ในแต่ละอ่าวนับร้อยลำ แต่ในปัจจุบันมีเรือเข้าไปเที่ยวตามหาดต่างๆ เพียงไม่กี่ลำ โดยผู้ประกอบการบนเกาะเชื่อว่าเป็นผลมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดอ่าวมาหยาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนด จนกว่าทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะฟื้นฟูเข้าสู่สภาพปกติ ทำให้เรือหางยาวบนเกาะพีพีกว่า 400 ลำ ใช้โอกาสนี้นำเรือขึ้นคานซ่อมแซม เพื่อออกให้บริการนำเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงในเดือน พ.ย.นี้

ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบนเกาะเผยว่า หลังจากที่กรมอุทยานฯ ประกาศปิดอ่าวมาหยา ส่งผลให้นักทองเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะพีพี เพื่อจะไปเที่ยวอ่าวมาหยา ต้องยกเลิกการเดินทาง และใช้บริการเรือหางยาวน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะพีพีร้อยละ 90 ต้องการไปเที่ยวที่อ่าวมาหยา ซึ่งการปิดอ่าวมาหยารอบแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.จนถึงเดือน ก.ย.61 ผ่านมาเป็นเวลา 5 เดือน ก็ส่งผลกระทบผู้ประกอบการมากแล้ว เมื่อทราบว่ามีการปิดไม่มีกำหนดก็ยิ่งกระทบหนักมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง พอเข้าช่วงโลว์ซีซั่นก็ค่อยปิดให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู

ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว กล่าวต่อว่า หลายหน่วยงานอ้างว่าสาเหตุที่ชายหาดอ่าวมาหยาพังเสียหายเกิดจากการท่องเที่ยวเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งภาพชายหาดทรายอ่าวมาหยาทรุดพังที่ปรากฏผ่านสื่อนั้นเกิดจากคลื่นลมซัดชายฝั่งตามธรรมชาติ ส่วนเรือหางยาวที่เข้าไปไม่ได้กระทบแนวปะการัง เพราะอยู่คู่การท่องเที่ยวเกาะพีพีมากว่า 30 ปี