เผยดัชนีความสามารถการแข่งขัน SME ไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 48.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดว่าจะเพิ่มต่อเนื่องในไตรมาส 4

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) แถลงดัชนีสถานการณ์ธุรกิจเอสเอ็มอีและดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจเอสเอ็มอีไตรมาส 3/2561 จาก 1,255 ตัวอย่างทั่วประเทศ

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ ไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ 43.2 ปรับตัวลดลง 0.1 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2561 ส่วนไตรมาส 4/2561 คาดจะลดลงอีกไปอยู่ที่ 42.3

ส่วนดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ระดับ 50.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและคาดการณ์ไตรมาส 4/2561 จะปรับเพิ่มอยู่ที่ 50.5

ด้านดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจ ไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ระดับ 53.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และคาดการณ์ไตรมาส 4/2561 จะลดลงอยู่ที่ 52.6

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า จาก 3 ดัชนีข้างต้นนำมาสู่ดัชนีความสามารถในการแข่งขันไตรมาส 3/2561 พบว่า อยู่ที่ระดับ 48.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับจากไตรมาส 3/2560 และคาดว่าไตรมาส 4/2561 จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 48.8

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการ SME ที่เป็นลูกค้า จะมีค่าเฉลี่ยทั้งดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SME ดัชนีความสามารถการทำธุรกิจ และดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจ SME และดัชนีความสามารถในการแข่งขันจะสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธพว.

ดังนั้น จึงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าแนวทางการสนับสนุน SME จำเป็นต้องให้ความรู้เพื่อยกระดับธุรกิจ เช่น การทำบัญชี วางแผนธุรกิจ การตลาด และการสร้างมาตรฐานให้สินค้า